เอเอฟพี – ศาลออสเตรเลีย ยืนยันตามคำตัดสินเดิมในวันนี้ (28) จำคุกตลอดชีวิตหญิงชาวออสเตรเลียวัย 50 ปี ซึ่งโดนข้อหาฆ่าหั่นศพสามีของตัวเองแล้วนำชิ้นส่วนมาประกอบอาหารหลากหลายเมนู ขณะที่จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลเพื่อขอลดหย่อนผ่อนโทษแล้ว
แคทเทอรีน ไนท์ อ้างเหตุผลเพื่อผ่อนผันลดโทษ ที่เธอถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตในข้อหาฆ่าคนตาย ว่า สามีของเธอเสียชีวิตก่อนที่เธอจะหั่นศพเขาแล้ว
ไนท์ เคยเป็นคนงานโรงฆ่าสัตว์ และในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2000 เธอได้ใช้มีดแทงจอห์น ไพรส์ สามีถึง 37 ครั้ง แล้วถลกหนังของเขามาแขวนไว้ในห้องนั่งเล่น ตัดศีรษะของเขามาต้มเป็นสตูว์ และยังนำเอาเนื้อส่วนสะโพกมาทำเป็นสเต็กให้ลูก 2 คน ของไพรส์รับประทาน
ทนายความของไนท์ จอห์น สแตรตตอน กล่าวต่อศาลว่า แม้เธอจะชำแหละเขาด้วยวิธีที่น่าสะพรึงกลัว แต่วิธีการฆาตกรรมไม่ได้จัดอยู่ในคดีร้ายแรง เพราะเธอชำแหละสามีของเธอหลังจากที่เขาตายแล้ว ทนายความของเธอยังค้านว่า นี่ไม่ได้เป็นการฆาตกรรมที่มีการเตรียมการล่วงหน้า เพราะไนท์ได้ให้การว่าเธอโกรธที่ไพรส์จะตัดความสัมพันธ์กับเธอ จึงบันดาลโทสะก่ออาชญากรรมขึ้น
สแตรตตอน ยังกล่าวอีกว่า การพิจารณาคดีนี้ไม่ได้ให้ความสนใจต่อหลักฐานทางร่างกายที่เธอถูกทารุณกรรมโดยชายหลายคน อย่างไรก็ตาม รองผู้อำนวยการสำนักงานอัยการ เกร็ก สมิท ก็ได้คัดค้านคำอุทธรณ์แล้ว โดยกล่าวว่าคดีนี้เป็นการกระทำที่โหดร้ายป่าเถื่อน
หนึ่งในคณะผู้พิพากษา ไมเคิล อดัมส์ กล่าวถึงหลักฐานทางจิตเวช บ่งบอกว่า ไนท์รู้สึกพอใจในขณะที่ทำการหั่นศพ และนี่เป็นปัญหามากๆ เขายังกล่าวอีกว่า “มีอาชญากรรมหลายคดีที่ร้ายแรงที่ต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต และอยู่ในที่ที่จะไม่มีการปล่อยตัวเท่านั้นจึงจะสาสม” ท้ายสุดคณะผู้พิพากษาก็ได้ยืนกรานตามคำตัดสินเดิม
แคทเทอรีน ไนท์ อ้างเหตุผลเพื่อผ่อนผันลดโทษ ที่เธอถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตในข้อหาฆ่าคนตาย ว่า สามีของเธอเสียชีวิตก่อนที่เธอจะหั่นศพเขาแล้ว
ไนท์ เคยเป็นคนงานโรงฆ่าสัตว์ และในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2000 เธอได้ใช้มีดแทงจอห์น ไพรส์ สามีถึง 37 ครั้ง แล้วถลกหนังของเขามาแขวนไว้ในห้องนั่งเล่น ตัดศีรษะของเขามาต้มเป็นสตูว์ และยังนำเอาเนื้อส่วนสะโพกมาทำเป็นสเต็กให้ลูก 2 คน ของไพรส์รับประทาน
ทนายความของไนท์ จอห์น สแตรตตอน กล่าวต่อศาลว่า แม้เธอจะชำแหละเขาด้วยวิธีที่น่าสะพรึงกลัว แต่วิธีการฆาตกรรมไม่ได้จัดอยู่ในคดีร้ายแรง เพราะเธอชำแหละสามีของเธอหลังจากที่เขาตายแล้ว ทนายความของเธอยังค้านว่า นี่ไม่ได้เป็นการฆาตกรรมที่มีการเตรียมการล่วงหน้า เพราะไนท์ได้ให้การว่าเธอโกรธที่ไพรส์จะตัดความสัมพันธ์กับเธอ จึงบันดาลโทสะก่ออาชญากรรมขึ้น
สแตรตตอน ยังกล่าวอีกว่า การพิจารณาคดีนี้ไม่ได้ให้ความสนใจต่อหลักฐานทางร่างกายที่เธอถูกทารุณกรรมโดยชายหลายคน อย่างไรก็ตาม รองผู้อำนวยการสำนักงานอัยการ เกร็ก สมิท ก็ได้คัดค้านคำอุทธรณ์แล้ว โดยกล่าวว่าคดีนี้เป็นการกระทำที่โหดร้ายป่าเถื่อน
หนึ่งในคณะผู้พิพากษา ไมเคิล อดัมส์ กล่าวถึงหลักฐานทางจิตเวช บ่งบอกว่า ไนท์รู้สึกพอใจในขณะที่ทำการหั่นศพ และนี่เป็นปัญหามากๆ เขายังกล่าวอีกว่า “มีอาชญากรรมหลายคดีที่ร้ายแรงที่ต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต และอยู่ในที่ที่จะไม่มีการปล่อยตัวเท่านั้นจึงจะสาสม” ท้ายสุดคณะผู้พิพากษาก็ได้ยืนกรานตามคำตัดสินเดิม