มะกันยัน "กออิดะห์" จ้องจี้เครื่องบิน ชนตึกสูงใน "ลอนดอน"

เอเอฟพี/บีบีซีนิวส์ - รายงานของรัฐบาลสหรัฐฯยืนยันว่า กลุ่มอัลกออิดะห์ได้วางแผนจี้เครื่องบินจากท่าอากาศยานฮีทโธรว์ เมื่อปี 2003 แล้วนำพุ่งเข้าชนตึกสูงแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอนจริงๆ

เวบไซต์ของสถานีโทรทัศน์เอบีซีของสหรัฐฯ อ้างรายงานของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิอเมริกันว่า ลอนดอนเป็น 1 ใน 4 เป้าหมายของแผนนี้ ซึ่งมีออสเตรเลีย เขตชายฝั่งตะวันออกของอเมริกาและอิตาลี รวมอยู่ด้วย

ทางเอบีซีไม่ได้ให้รายละเอียดแผนถล่มออสเตรเลีย อิตาลี หรือสหรัฐฯ แต่บอกว่ารายงานดังกล่าวสรุปว่ามีแผนการทำนองเดียวกันอีก 9 แผนนับตั้งแต่เหตุการณ์ 11 กันยายน 2001 อันชี้ให้เห็นว่าทางอัลกออิดะห์ยังมีความตั้งใจต่อเนื่องที่จะโจมตีเป้าหมายทางการบิน

รายงานดังกล่าวของ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเผยว่า กลุ่มก่อการร้ายนี้ยังวางแผนจะขับเครื่องบินบรรทุกระเบิดพุ่งใส่สถานกงสุลสหรัฐฯในเมืองการาจี, ปากีสถานอีกด้วย

สำหรับแผนการโจมตีในเมืองหลวงอังกฤษนั้น รายงานบอกว่ากลุ่มอัลกออิดะห์วางแผนจะจี้เครื่องบินที่ออกจากท่าอากาศยานฮีทโธรว์ในลอนดอนและนำพุ่งชนท่าอากาศยานดังกล่าว ตลอดจนตึกสูงแห่งหนึ่งในย่านคานารีวอร์ฟ อันเป็นย่านการเงินในกรุงลอนดอน โดยกำหนดให้พวกสลัดอากาศใช้กล้องถ่ายภาพเป็นที่ซ่อนระเบิด และพรางปืนไฟฟ้าซึ่งยิงคนให้หมดสติได้ ให้เหมือนกับเป็นอุปกรณ์ไฟแฟลช

เชื่อกันว่าหน่วยงานรักษาความปลอดภัยสกัดกั้นแผนการนี้ได้ แม้ว่าน่าจะไม่มีการจับกุมใครเลย

ก่อนหน้านี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2003 มีการส่งรถถังเข้าไปในท่าอากาศยานฮีทโธรว์ เนื่องจากสงสัยว่าจะมีการขู่ก่อการร้าย แต่เชื่อว่าไม่เกี่ยวข้องกับแผนการถล่มคานารีวอร์ฟนี้

นอกจากนั้น ยังเคยมีรายงานเรื่องแผนถล่มคานารีวอร์ฟออกมาเมื่อปลายปี 2004 แต่ไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน และเจ้าหน้าที่ไม่ยืนยันข้อมูลดังกล่าว

แม้จะมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มขึ้น แต่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิยังคงได้รับข้อมูลผู้ก่อการร้ายออกมาขู่อุตสาหกรรมการบินของสหรัฐฯและของชาติตะวันตกทั่วโลก

เอบีซีอ้างคำของเจ้าหน้าที่กระทรวงซึ่งบอกว่า การโจมตีที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่ากลุ่มอัลกออิดะห์พลิกแพลงวิธีให้เข้ากับการรักษาความปลอดภัยด้านการบินที่เข้มขึ้น โดยเปลี่ยนจากการจี้เที่ยวบินภายในประเทศเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ เพื่อใช้ช่องโหว่จากการรักษาความปลอดภัยที่หละหลวมกว่าของท่าอากาศยานในต่างประเทศบางแห่ง

รายงานฉบับนี้ยังระบุวิธีต่างๆ ที่อัลกออิดะห์อาจใช้เครื่องบินเป็นอาวุธ หรือมุ่งเล่นงานส่วนอื่นๆ อันเกี่ยวกับการบิน เช่น การใช้แสงเลเซอร์ทำให้นักบินมองไม่เห็นหรือเสียสมาธิ

โดยตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2004 มีการใช้วิธียิงแสงเลเซอร์ประมาณ 311 ครั้ง แต่ตัวเลขได้ลดลงเมื่อไม่นานมานี้

อีกเรื่องที่น่าวิตกคือ การนำเอายุทธวิธีโจมตีเฮลิคอปเตอร์กองทัพสหรัฐฯ ซึ่งใช้กันอยู่ในอิรัก มาใช้เล่นงานีเฮลิคอปเตอร์พาณิชย์ในที่อื่นๆ