เอเอฟพี - เซอร์ เอ็ดมันด์ ฮิลลารี ผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ได้สำเร็จคนแรกของโลก ตำหนินักไต่ขาพิการชาวนิวซีแลนด์ ว่า ปล่อยให้นักไต่เขาชาวอังกฤษตายอย่างไม่ดี ขณะที่มัวแต่มุ่งมั่นอยู่กับการได้ชื่อว่า เป็นคนพิการคนแรกที่สามารถเดินทางถึงยอดเขาสูงกว่า 8,000 เมตร
เซอร์ เอ็ดมันด์ ฮิลลารี ซึ่งขณะนี้มีอายุ 83 ปีแล้ว กล่าวเมื่อวันพุธ (24) ว่า เป็นเรื่องผิดที่ มาร์ก อิงกลิส รวมทั้งกลุ่มนักไต่เขาร่วมชาติ ปล่อยให้ เดวิด ชาร์ป ตายขณะที่พวกเขาเดินหน้าพิชิตสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ ที่มีความสูง 8,848 เมตร เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ชาร์ป นักไต่เขาชาวอังกฤษวัย 34 ปี ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตในถ้ำ ซึ่งปกคลุมด้วยหิมะ ห่างจากยอดเขาเพียง 300 เมตรเท่านั้น
“เป็นเรื่องผิด ถ้ามีคนที่กำลังเจอกับปัญหาสุขภาพเพราะอยู่ในที่สูง กำลังตะเกียกตะกายบนเขา แล้วคุณเพียงถอดหมวก กล่าวว่า อรุณสวัสดิ์แล้วจากนั้นก็เดินผ่านไป” ผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์คนแรกของโลก กล่าว และบอกด้วยว่า การช่วยชีวิตเป็นความรับผิดชอบของมนุษย์ทุกคน เพราะชีวิตมนุษย์สำคัญกว่าการไปสู่ยอดเขาได้
ด้าน อิงกิส ซึ่งใช้ขาเทียมทั้งสองข้าง วัย 47 ปี ปฏิเสธว่า เขาไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยเหลือชาร์ปได้ เพราะชาร์ปแทบจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วในขณะที่ทีมของเขาไปพบ โดยตัวชาร์ปนั้นแทบจะกลายเป็นน้ำแข็ง ไม่สามารถพูดได้ และสิ่งบ่งชี้เพียงอย่างเดียวที่บอกว่าเขายังมีชีวิตอยู่ก็คือ การเคลื่อนไหวของดวงตาเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ อิงกิส กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่จะช่วยชีวิตชาร์ปเอาไว้ได้ เพราะชาร์ปกำลังขาดออกซิเจน และไม่มีถุงมือที่เหมาะสม เขายังบอกด้วยว่า มีนักไต่เขาอีก 40 คนเดินผ่านชาร์ปไป
กระนั้นก็ตาม เซอร์ฮิลลารี กล่าวว่า ถึงอย่างไร อิงกิส และนักไต่เขาคนอื่นๆ น่าจะทำอะไรมากกว่านี้เพื่อช่วยชีวิตชาร์ป
นอกจากนี้ เขายังเสนอให้มีการจำกัดจำนวนนักเดินทางที่ต้องการไปพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ด้วย เนื่องจากในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ทั้งนี้ เซอร์ฮิลลารี เดินทางสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ได้สำเร็จเมื่อ 53 ปีก่อน พร้อมด้วย เท็นซิง นอร์เกย์ ชาวเชอร์ปาของเนปาล