เอเอฟพี – หนังสือพิมพ์ของสิงคโปร์ ได้ตีพิมพ์คำพูดของนายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง ของสิงคโปร์ ว่า การที่สิงคโปร์เข้าไปเทกโอเวอร์บริษัทโทรคมนาคมของครอบครัว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยนั้น เป็นการตัดสินใจทางธุรกิจ
โดย ลี เซียน ลุง ได้เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์เดอะสเตรตส์ไทมส์ ว่า การที่กองทุนเทมาเส็กซึ่งมีสายสัมพันธ์กับรัฐบาลสิงคโปร์เข้าไปครอบครองบริษัทชินคอร์ปนั้น เป็นเครื่องหมายที่แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในประเทศไทย และเขายังหวังว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศจะดำเนินและรุ่งเรืองต่อไป
ลี เซียน ลุง กล่าวว่า “เราสนับสนุนพวกเขา (เทมาเส็ก) ให้เข้าไปในระดับภูมิภาค เราสนับสนุนให้พวกเขาลงทุนระยะยาวในประเทศเพื่อนบ้านของเรา เพราะว่าเรามีความมั่นใจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่นเดียวกับเทมาเส็ก แต่ว่าพวกเขาเป็นคนตัดสินใจทางธุรกิจด้วยตัวเอง และเมื่อพวกเขาเข้าไป พวกเขาต้องทำตามกฎและกฎหมายของประเทศต่างๆ ที่พวกเขาเข้าไป”
นอกจากนั้น ผู้นำของสิงคโปร์ ยังกล่าวเสริมว่า “เรามีความสัมพันธ์ที่ดี (กับประเทศไทย) มาเสมอ เป็นเวลายาวนานหลายทศวรรษ ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 ตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อนๆ ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีคนก่อนๆ” พร้อมกันนั้น เขายังหวังว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสิงคโปร์จะ “พัฒนาและรุ่งเรืองในทุกๆ ด้าน”
อนึ่ง เทมาเส็ก คาดว่า จะทำเรื่องการเทกโอเวอร์ชินคอร์ปของตนให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ หลังจากได้ซื้อหุ้นเพิ่ม ทำให้เทมาเส็กสามารถควบคุมองค์กรได้ ซึ่งทางเทมาเส็กเองได้เพิกเฉยต่อเสียงคัดค้านจากฝั่งไทยที่ให้ยุติข้อตกลงการซื้อขายดังกล่าว
ทั้งนี้ กองทุนเทมาเส็กนั้น อยู่ภายใต้การควบคุมของ โฮ ชิง อดีตข้าราชการระดับสูง ซึ่งเป็นภริยาของ ลี เซียน ลุง โดยตัว โฮ ชิง นั้นได้รับการพิจารณาว่าเป็นเป็นหนึ่งในผู้บริหารธุรกิจที่มีอำนาจมากที่สุดในเอเชีย เนื่องจากเธอควบคุมการลงทุนในระดับโลกที่มีมูลค่ามากกว่า 63,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ