เอเจนซี/เอเอฟพี - ผู้นำสหรัฐแถลงข่าวประจำปี ประกาศนำมาตรการติดตามผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายโดยการดักฟังโทรศัพท์ประชาชนมาใช้อีก ประณามผู้ที่นำโครงการลับดังกล่าวออกมาแฉจนตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าละเมิดสิทธิเสรีภาพ พร้อมเร่งอิรักจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็วที่สุด
ระหว่างการแถลงข่าวช่วงสิ้นปีเมื่อวันจันทร์ (19) ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐ เผยว่า เขาได้ลงนามมอบอำนาจโครงการลับในการเฝ้าระวังพวกก่อการร้ายต่อไปอีก ซึ่งเขากล่าวว่าจะเดินหน้าต่อไปตราบใดที่สหรัฐยังคงเผชิญภัยคุกคามจากศัตรูที่ต้องการคร่าชีวิตชาวอเมริกัน
บุช ยืนยันว่า เขาสั่งใช้มาตรการนี้ภายใต้อำนาจระหว่างสงครามของเขาภายใต้รัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เขาย้ำว่า เพื่อปกป้องประชาชนจากภัยคุกคามของผู้ก่อการร้าย หลังเหตุการณ์ 11 กันยาฯ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า ภายใต้คำสั่งลับที่บุชลงนามในปี 2002 ผู้นำสหรัฐลงนามมอบอำนาจให้สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) สามารถดักฟังโทรศัพท์ชาวอเมริกัน และชาวต่างชาติในสหรัฐได้ รวมทั้งตรวจสอบอีเมลของประชาชนในสหรัฐซึ่งติดต่อไปต่างประเทศ โดยปราศจากการรับรองของฝ่ายตุลาการ
นอกจากนี้ บุชยังตำหนิผู้ที่เปิดเผยโครงการลับดังกล่าวว่ามันเป็นเรื่องน่าละอายในการเปิดเผยโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งนี้ อย่างไรก็ตาม เขาเผยว่า ยังไม่ได้สั่งให้มีการสอบสวนว่าใครเป็นคนนำข้อมูลมาเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ เพราะเขาคาดหวังว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐจะดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นทางการเอง
สำหรับเรื่องอิรักนั้น ผู้นำสหรัฐได้เรียกร้องให้อิรักเร่งจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเมือง และชื่นชมว่า การเลือกตั้งสภานิติบัญญิติของอิรักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นความสำเร็จ โดยมีชาวอิรักกว่า 10 ล้านคนออกมาลงคะแนน อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า ยังมีงานต้องทำอีกมาเพื่อสร้างเสถียรภาพให้แก่อิรักที่ประกอบไปด้วยกลุ่มต่างๆ ที่ขัดแย้งกัน
ด้านสมาชิกสภาทั้งฝ่ายพรรคริพับลิกันและเดโมแครตชื่นชมเขาที่ยอมรับความผิดพลาดและรับผิดชอบในสงครามอิรัก อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ระบุว่าเขายังไม่มีแผนที่เป็นรูปธรรมที่จะนำไปสู่การถอนทหารออกจากอิรัก