xs
xsm
sm
md
lg

อาเซมกร้าว‘โสมแดง’ต้องเจรจา 6 ฝ่ายโดยเร็ว-ไม่มีข้อแม้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน – ที่ประชุมอาเซมวอนเกาหลีเหนือกลับร่วมโต๊ะเจรจา 6 ฝ่าย “โดยเร็วและปราศจากข้อแม้ใดๆ” ขณะที่ไทยนำเสนอนโยบายให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา พร้อมเรียกร้องนานาชาติให้ความสำคัญกับการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งต่างๆ

นายโนบูทากะ มาชิมูระ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์ในฐานะประธานการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) ครั้งที่ 7 ที่นครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น วันนี้ (7) ว่า ที่ประชุมได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี และเรียกร้องอย่างแข็งกร้าวให้เกาหลีเหนือ กลับเข้าร่วมการเจรจา 6 ฝ่าย เพื่อยุติโครงการนิวเคลียร์ภายในประเทศ อย่างเร่งด่วน

แถลงการณ์หลังปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซม นาน 2 วัน ยังระบุด้วยว่า “ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีการเจรจา 6 ฝ่ายเกิดขึ้น มันมีความเป็นไปได้สูงที่กระบวนการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ตลอดจนขีปนาวุธต่างๆ ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง”

ทั้งนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ออกมาประกาศว่า กรุงเปียงยางมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองแล้ว พร้อมกับยืนยันว่าจะไม่กลับนั่งโต๊ะเจรจา 6 ฝ่าย อีกเป็นครั้งต่อไป ด้านที่ประชุมอาเซมระบุว่า คำประกาศดังกล่าวของเกาหลีเหนือถือเป็นสิ่งที่อาเซมรู้สึก “วิตกกังวลเป็นอย่างมาก”

ฌอง แอสเซลบอร์น รัฐมนตรีต่างประเทศของลักเซมเบิร์ก แถลงในฐานะประธานสภาแห่งสหภาพยุโรป (อียู) ในวันเดียวกันว่า อียูต้องการให้เกาหลีเหนือกลับเข้าร่วมการเจรจา 6 ฝ่าย ร่วมกับเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย “โดยปราศจากเงื่อนไข และเป็นไปอย่างรวดเร็ว”

ด้านนายกันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย ก็แสดงความเห็นด้วยที่นานาชาติควรหันหน้าเข้าหากัน เพื่อเจรจา พูดคุย และหาทางยุติปัญหาความขัดแย้ง ที่อาจกลายเป็นชนวนในการใช้ความรุนแรง แบบที่กำลังเป็นปัญหาและเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน

ในการนี้ นายกันตธีร์ ระบุว่า ไทยได้แสดงความยินดีที่จะช่วยเข้าไปมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี และว่า ไทยต้องการช่วยให้การเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวประสบความสำเร็จด้วยดี

ไทยเสนอปชช.เป็นศูนย์กลางการพัฒนา

รมว.ต่างประเทศของไทยกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซมว่า ไทยได้เสนอแผนการพัฒนาภายในกลุ่มประเทศสมาชิก ด้วยการเน้นนโยบายให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมกับยกตัวอย่างแนวทางที่รัฐบาลไทยได้ใช้อยู่ในปัจจุบัน อาทิ โครงการกองทุนหมู่บ้าน และโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) เป็นต้น

นอกจากนี้ นายกันตธีร์ยังเปิดเผยว่า ไทยกำลังพยายามให้ความช่วยเหลือชาติเพื่อนบ้าน เพื่อลดช่องว่างทางเศรษฐกิจและการพัฒนา ผ่านโครงการยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง อิระวดี และเจ้าพระยา (แอคเมส) และโครงการพัฒนาลุ่มน้ำโขง (Greater Mekong Besin)

ภายหลังการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซมปิดฉากลง รมว.ต่างประเทศของไทยยังได้เข้าร่วมการหารือแบบทวิภาคีกับนายมิเกล แองเกล โมราติโนส กูเยาเบ รมว.ต่างประเทศของสเปน และนายแอรกิ ตัวมิโอยา รมว.ต่างประเทศของฟินแลนด์

นายกันตธีร์กล่าวภายหลังการหารือดังกล่าวว่า ไทยเน้นพูดคุยเรื่องการท่องเที่ยวกับสเปน โดยเฉพาะการที่สเปนช่วยเป็นผู้โปรโมตการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทย ด้วยการจัดการประชุมการท่องเที่ยวโลก หลังเกิดเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา

ส่วนการหารือกับฟินแลนด์นั้น รมว.ต่างประเทศของไทยระบุว่า ทางฟินแลนด์ได้เชิญชวนไทยเข้าร่วมการประชุมเฮลซิงกิ โปรเซส ซึ่งทางฟินแลนด์ และแทนซาเนีย เป็นผู้คิดริเริ่ม โดยมีหัวข้อการประชุมคล้ายอาเซม แต่จะเจาะลึก และสอดรับกับการแก้ไขปัญหาต่างๆตามกระแสโลกาภิวัตน์ได้มากยิ่งขึ้น

สำหรับการประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นครั้งแรกในเดือนกันยายนนี้ ที่กรุงเฮลซิงกิ ของฟินแลนด์
กำลังโหลดความคิดเห็น