เอเอฟพี - ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ แม้ว่าโทนี แบลร์ จะสามารถนำพรรคแรงงานเป็นรัฐบาลได้ถึง 3 สมัยติดต่อกัน แต่คะแนนเสียงส่วนใหญ่ของพรรคแรงงานกลับลดลงไปอย่างมาก อันเป็นผลมาจากความโกรธเคืองของชาวอังกฤษ จากกรณีที่โทนี แบลร์ ตัดสินใจเข้าร่วมสงครามอิรัก
จากผลเอ็กซิตโพลที่ทางสถานีโทรทัศน์บีบีซีของอังกฤษจัดทำขึ้น ปรากฏว่าพรรคแรงงานสามารถชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนที่เหนือกว่าพรรคคู่แข่งอย่างพรรคอนุรักษ์นิยมไม่มากนัก เมื่อเทียบกับครั้งก่อน ซึ่งถ้าหากผลที่ออกมานั้นเป็นจริง โทนี แบลร์ วัย 52 ปี ซึ่งได้เปิดเผยว่าจะขอทำหน้าที่หัวหน้าพรรคแรงงานเป็นครั้งสุดท้ายในการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็จะรีบจัดตั้งคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว
บรรดานักวิเคราะห์ต่างกล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ถ้าหากพรรคแรงงานได้ที่นั่งส่วนใหญ่ในสภาสามัญน้อยกว่า 100 ที่นั่งแล้ว แบลร์ก็จะเปิดทางให้กับ รัฐมนตรีคลัง กอร์ดอน บราวน์ ซึ่งเป็นว่าที่ผู้นำพรรคแรงงานคนต่อไปเร็วขึ้น
อนึ่ง แบลร์ได้นำชัยชนะอย่างถล่มทลายมาให้กับพรรคแรงงาน ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 1997 และเมื่อเดือนมิถุนายน 2001 หลังจากที่พรรคอนุรักษ์นิยมได้ครองความเป็นหนึ่งมาเป็นเวลายาวนาน และระหว่างวาระ 8 ปีของการเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น แบลร์ทำให้เศรษฐกิจของอังกฤษเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังทำให้อัตราการว่างงานลดต่ำลง
กระนั้น การที่เขาตัดสินใจร่วมกับประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ในการบุกเข้าไปในอิรักเมื่อเดือนมีนาคม 2003 แม้ว่าจะมีผู้ประท้วงไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก จนถึงขนาดที่มีผู้เดินขบวนในกรุงลอนดอนกว่า 1 ล้านคนนั้น ได้ทำให้ความนิยมในตัวของแบลร์ลดต่ำลงไป
ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษครั้งนี้ มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 40 ล้านคน ใน 645 เขตการเลือกตั้ง ซึ่งมี 1 เขตการเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากมีผู้สมัครคนหนึ่งเกิดเสียชีวิตกะทันหัน โดยที่การเลือกตั้งครั้งนี้มีการหวังว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิมากกว่าในปี 2001 ที่มีผู้มาใช้สิทธิ 59.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นครั้งที่มีผู้มาเลือกตั้งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1918