รอยเตอร์/เอเอฟพี-นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี ในฐานะประธานองค์การที่ประชุมอิสลาม (โอไอซี) เรียกร้องวันนี้(27) ให้ชาติมุสลิมและผู้รู้ทางศาสนาอิสลามทั้งหลาย ต้องออกมาพูดคัดค้านพวกลัทธิสุดโต่งนิยมแนวทางรุนแรง ไม่เช่นนั้นก็ต้องถือเป็นความผิดพลาดของตัวเองด้วยส่วนหนึ่ง ในการที่ฝ่ายตะวันตกมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับอิสลาม
อับดุลเลาะห์บอกกับนักปราชญ์และนักการทูตอิสลาม 50 คนจาก 15 ประเทศ ซึ่งมาร่วมประชุมเป็นเวลา 3 วันที่เมืองปุตราจายา เมืองศูนย์ราชการของมาเลเซียว่า อิสลามและชาวมุสลิมได้ถูกวาดภาพโดยพวกบิดเบือนว่าคือความรุนแรงและการไม่มีขันติธรรม นับแต่เกิดเหตุการณ์ 11 กันยายน 2001 ในสหรัฐฯ
"การถูกวาดภาพในลักษณะเช่นนี้จะต้องหยุดกันได้เสียที มันไม่ยุติธรรมอย่างยิ่งยวดต่อชาวมุสลิมส่วนข้างมากท่วมท้นซึ่งใช้ชีวิตอยู่กันอย่างสันติ" เขากล่าวและระบุว่า "อันที่จริงแล้ว ชาวมุสลิมได้รับความเสียหายจากการใช้แนวทางรุนแรงและการก่อการร้ายยิ่งกว่าคนอื่นๆ ด้วยซ้ำ"
ชาวมุสลิมจะต้อง "ใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพในการรื้อถอนรากฐานทางปัญญาและทางอุดมการของลัทธิสุดโต่งและลัทธิแบ่งพรรคแบ่งพวกเป็นกลุ่มย่อยๆ ในทางศาสนา เนื่องจากพวกเหล่านี้ได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้แก่หลักธรรมของอิสลาม และสวัสดิภาพของชาวมุสลิม" อับดุลเลาะห์บอก
"ในการลงมือปฏิบัติภารกิจอันสำคัญยิ่งยวดนี้ เราต้องป้องกันคัดค้านบรรดาแรงจูงใจสู่ความสุดโต่งหรือองค์ประกอบที่เป็นพวกสุดโต่ง" เขากล่าวและชี้ว่า "เป็นเรื่องโชคร้ายที่สุดที่บางคนได้หดแคบแนวความคิดเรื่องญิหาด ให้เหลือเพียงแค่ ... การต่อสู้ทางกายภาพ
"เป็นเรื่องโชคร้ายยิ่งกว่านั้นอีกที่ความหมายเช่นนี้เท่านั้นซึ่งเป็นที่เข้าใจกันทั่วไปของสาธารณชนวงกว้าง ถ้าชาวมุสลิมเองสามารถทำความผิดพลาดเช่นนี้ได้ แล้วเราจะไปคาดหวังอะไรจากคนอื่นมากกว่านี้ได้"
เมื่อเขาพูดต่อที่ประชุมแถลงข่าวในเวลาต่อมา อับดุลเลาะห์ได้ประณามมือระเบิดพลีชีพ โดยบอกว่า "การกระทำชนิดใดก็ตามที่มีธรรมชาติเป็นความรุนแรง และเป็นสาเหตุให้เกิดการสังหารผู้บริสุทธิ์แล้ว คือสิ่งซึ่งเรายอมรับไม่ได้"
การประชุมครั้งนี้มุ่งให้ผู้รู้และบุคคลสำคัญที่เป็นชาวมุสลิม หารือกันเกี่ยวกับปัญหาท้าทายต่างๆ ที่ชาวมุสลิมต้องเผชิญในศตวรรษที่ 21 ตลอดจนการปฏิรูปองค์การโอไอซี โดยข้อเสนอแนะของที่ประชุมนี้ จะส่งต่อไปที่การประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศโอไอซี ซึ่งจะขึ้นที่เยเมนในปีนี้