สมศ.เผยผลการประเมินสถานศึกษา รอบ 2 เผยโรงเรียนสังกัด สพฐ.ผ่านฉลุย เหตุ สมศ.ปรับเกณฑ์การประเมินใหม่ ยันประเมินครั้ง 3 ใช้เกณฑ์เข้มข้น ชี้แห่งไหนผ่านถือว่าเป็นโรงเรียนมีคุณภาพ
ศ.เกียรติคุณ ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เปิดเผยว่า สมศ.ได้พิจารณารับรองคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษารอบ 2 (พ.ศ.2548-2553) เพิ่มเติม ดังนี้ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำแนกเป็นโรงเรียนที่เปิดสอนระดับปฐมวัย มีโรงเรียนที่ขอรับการประเมินทั้งสิ้น 3,194 แห่ง มีโรงเรียนผ่านการรับรอง 2,565 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 80.31 ไม่รับรอง 626 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 19.69 โรงเรียนที่เปิดสอนระดับประถมศึกษา มีโรงเรียนขอรับการประเมินทั้งสิ้น 2,739 แห่ง มีโรงเรียนผ่านการรับรอง 2,140 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 78.13 ไม่รับรอง 599 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 21.87 โรงเรียนที่เปิดสอนทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษามีโรงเรียนขอรับการประเมินทั้งสิ้น 1,111 แห่ง มีโรงเรียนผ่านการรับรอง 778 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 70.03 ไม่รับรอง 333 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 29.97 และโรงเรียนที่เปิดสอนระดับมัธยมศึกษามีโรงเรียนขอรับการประเมินทั้งสิ้น 368 แห่ง ผ่านการรับรอง 281 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 76.36 ไม่รับรอง 87 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 23.64
สำหรับการประเมินคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานครั้งนี้ มีโรงเรียนผ่านการรับรอง 3 ใน 4 ของโรงเรียนที่ขอรับการประเมิน เหตุผลที่มีโรงเรียนผ่านการประเมินจำนวนมาก น่าจะมาจาก สมศ.ใช้วิธีการประเมินโดยมีการอิงพัฒนาการ และอิงผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาตามบริบทของโรงเรียน มาประกอบกับเกณฑ์การประเมิน ซึ่งต่างกับการประเมินในรอบแรก (2544-2548)
ที่ใช้เกณฑ์การประเมินของ สมศ.เพียงอย่างเดียว ซึ่งเกณฑ์ที่ตั้งไว้ค่อนข้างโหด ส่งผลให้โรงเรียนผ่านการประเมินจำนวนน้อย
ทั้งนี้ จากการประชุมผู้บริหาร สมศ.มีความเห็นสอดคล้องกันว่า การประเมินรอบ 3 (พ.ศ. 2554-2558) สมศ.มีแนวโน้มว่าอาจจะกลับมาประเมินคุณภาพสถานศึกษาโดยอิงเกณฑ์ของ สมศ.เพียงอย่างเดียว เพราะจะมีการแบ่งกลุ่มโรงเรียนออกเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ แล้วจะเกณฑ์การประเมินขั้นต่ำที่แตกต่างกันออกไปตามขนาดของโรงเรียนด้วย ดังนั้น โรงเรียนที่ผ่านการประเมินครั้งนี้นับว่าเป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพจริงๆ
ผอ.สมศ.กล่าวอีกว่า สำหรับผลการรับรองคุณภาพการศึกษา สถานศึกษาระดับอาชีวศึกษาครั้งนี้นั้น มีสถานศึกษาอาชีวศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนขอรับการประเมินทั้งสิ้น 24 แห่ง ผ่านการรับรอง 16 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 66 ไม่รับรอง 8 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 44 หรือคิดเป็น 2 ใน 3 ของสถานศึกษาที่ขอรับการประเมิน
สำหรับสถาบันอุดมศึกษา ขอรับการประเมินทั้งสิ้น 75 แห่ง ผ่านการรับรอง 72 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 96 ไม่รับรอง 3 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 4 จะสังเกตได้ว่า มีสถานศึกษาได้รับการรับรองในเปอร์เซ็นต์ที่สูงเช่นเดียวกับระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งนี้ เป็นเพราะ สมศ.ใช้เกณฑ์ประเมินแบบเดียวกับประเมินสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ ใช้เกณฑ์การประเมินที่อิงเกณฑ์กลาง 40% และอิงเกณฑ์สถาบัน 60%
ศ.เกียรติคุณ ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เปิดเผยว่า สมศ.ได้พิจารณารับรองคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษารอบ 2 (พ.ศ.2548-2553) เพิ่มเติม ดังนี้ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำแนกเป็นโรงเรียนที่เปิดสอนระดับปฐมวัย มีโรงเรียนที่ขอรับการประเมินทั้งสิ้น 3,194 แห่ง มีโรงเรียนผ่านการรับรอง 2,565 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 80.31 ไม่รับรอง 626 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 19.69 โรงเรียนที่เปิดสอนระดับประถมศึกษา มีโรงเรียนขอรับการประเมินทั้งสิ้น 2,739 แห่ง มีโรงเรียนผ่านการรับรอง 2,140 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 78.13 ไม่รับรอง 599 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 21.87 โรงเรียนที่เปิดสอนทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษามีโรงเรียนขอรับการประเมินทั้งสิ้น 1,111 แห่ง มีโรงเรียนผ่านการรับรอง 778 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 70.03 ไม่รับรอง 333 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 29.97 และโรงเรียนที่เปิดสอนระดับมัธยมศึกษามีโรงเรียนขอรับการประเมินทั้งสิ้น 368 แห่ง ผ่านการรับรอง 281 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 76.36 ไม่รับรอง 87 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 23.64
สำหรับการประเมินคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานครั้งนี้ มีโรงเรียนผ่านการรับรอง 3 ใน 4 ของโรงเรียนที่ขอรับการประเมิน เหตุผลที่มีโรงเรียนผ่านการประเมินจำนวนมาก น่าจะมาจาก สมศ.ใช้วิธีการประเมินโดยมีการอิงพัฒนาการ และอิงผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาตามบริบทของโรงเรียน มาประกอบกับเกณฑ์การประเมิน ซึ่งต่างกับการประเมินในรอบแรก (2544-2548)
ที่ใช้เกณฑ์การประเมินของ สมศ.เพียงอย่างเดียว ซึ่งเกณฑ์ที่ตั้งไว้ค่อนข้างโหด ส่งผลให้โรงเรียนผ่านการประเมินจำนวนน้อย
ทั้งนี้ จากการประชุมผู้บริหาร สมศ.มีความเห็นสอดคล้องกันว่า การประเมินรอบ 3 (พ.ศ. 2554-2558) สมศ.มีแนวโน้มว่าอาจจะกลับมาประเมินคุณภาพสถานศึกษาโดยอิงเกณฑ์ของ สมศ.เพียงอย่างเดียว เพราะจะมีการแบ่งกลุ่มโรงเรียนออกเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ แล้วจะเกณฑ์การประเมินขั้นต่ำที่แตกต่างกันออกไปตามขนาดของโรงเรียนด้วย ดังนั้น โรงเรียนที่ผ่านการประเมินครั้งนี้นับว่าเป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพจริงๆ
ผอ.สมศ.กล่าวอีกว่า สำหรับผลการรับรองคุณภาพการศึกษา สถานศึกษาระดับอาชีวศึกษาครั้งนี้นั้น มีสถานศึกษาอาชีวศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนขอรับการประเมินทั้งสิ้น 24 แห่ง ผ่านการรับรอง 16 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 66 ไม่รับรอง 8 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 44 หรือคิดเป็น 2 ใน 3 ของสถานศึกษาที่ขอรับการประเมิน
สำหรับสถาบันอุดมศึกษา ขอรับการประเมินทั้งสิ้น 75 แห่ง ผ่านการรับรอง 72 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 96 ไม่รับรอง 3 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 4 จะสังเกตได้ว่า มีสถานศึกษาได้รับการรับรองในเปอร์เซ็นต์ที่สูงเช่นเดียวกับระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งนี้ เป็นเพราะ สมศ.ใช้เกณฑ์ประเมินแบบเดียวกับประเมินสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ ใช้เกณฑ์การประเมินที่อิงเกณฑ์กลาง 40% และอิงเกณฑ์สถาบัน 60%