สมศ.เผยผลประเมินโรงเรียน รอบ 2 ผ่านเพียบ พร้อมนำผลการประเมินโรงเรียนภาคใต้ ข้อเสนอแนะเข้าเสนอ ครม.เร็วๆ นี้ ยินดีให้พรรคการเมืองนำผลประเมินชูนโยบายหาเสียง
ศ.กิตติคุณ ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ.กล่าวภายหลังการประชุม บอร์ด สมศ.ว่า ที่ประชุมได้เสนอผลการประเมินสถานศึกษารอบ 2 (2550-2554) ดังนี้ มีสถานศึกษาระดับปฐมวัย เสนอพิจารณา 1,794 แห่ง รับรอง 1,394 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 77.70 ไม่รับรอง 400 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 26.30 ระดับประถมศึกษา เสนอ 1,175 แห่ง รับรอง 852 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 72.51 ไม่รับรอง 323 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 27.49 ระดับประถมและมัธยมศึกษา เสนอ 655 แห่ง รับรอง 477 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 72.82 ไม่รับรอง 174 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 37.18 ระดับมัธยมศึกษา เสนอ 178 แห่ง รับรอง 128 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 71.91 ไม่รับรอง 50 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 28.09 ระดับอาชีวศึกษา รัฐและเอกชน เสนอ 221 แห่ง รับรอง 189 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 85 และระดับอุดมศึกษา รับรอง 66 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 95
ศ.กิตติคุณ สมหวัง กล่าวถึงเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้ สมศ.รับผิดชอบในการช่วยเหลือโรงเรียนภาคใต้ ทาง สมศ.จะนำข้อมูลที่มีอยู่มาดูเป็นรายโรง ว่า จะช่วยอะไรได้บ้าง รวมทั้งจะช่วยด้วยวิธีใด เป็นต้น ซึ่งอาจนำเสนอให้พรรคการเมืองนำเรื่องการช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็ก หรือโรงเรียนภาคใต้ อยู่ในนโยบายของพรรค ดังนั้น ถ้าใครเป็นรัฐบาลในชุดต่อไป ทาง ศธ.ก็ได้เตรียมการไว้ให้อย่างดี นำข้อมูลและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดูแลโรงเรียนขนาดเล็ก และโรงเรียนทางใต้ ที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วๆ นี้ โดยชูเป็นนโยบายของพรรคการเมือง เพื่อเป็นตัวชี้วัดให้ประชาชนได้นำไปเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเลือกพรรค การเมือง
อย่างเช่น จัดตั้งกองทุนช่วยพัฒนาโรงเรียน หรือการสร้างบุคลากรทางการศึกษาให้ตรงกับความต้องการของตลาด อย่างในส่วนของอาชีวะ ต้องหาวิธีการ ไม่ให้อาชีวะไปมุ่งสู่การเรียนปริญญาตรี แต่ให้มีการเรียนที่นำไปสู่การทำงานที่ตรงกับความต้องการของตลาดที่มีคุณภาพ สำหรับระดับอุดมศึกษา จะผลิตบัณฑิตให้สอดคล้องกับตลาดแรงงาน ทั้งนี้ สมศ.จะนำเสนอต่อสาธารณชน และพรรคการเมือง
ศ.กิตติคุณ ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ.กล่าวภายหลังการประชุม บอร์ด สมศ.ว่า ที่ประชุมได้เสนอผลการประเมินสถานศึกษารอบ 2 (2550-2554) ดังนี้ มีสถานศึกษาระดับปฐมวัย เสนอพิจารณา 1,794 แห่ง รับรอง 1,394 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 77.70 ไม่รับรอง 400 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 26.30 ระดับประถมศึกษา เสนอ 1,175 แห่ง รับรอง 852 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 72.51 ไม่รับรอง 323 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 27.49 ระดับประถมและมัธยมศึกษา เสนอ 655 แห่ง รับรอง 477 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 72.82 ไม่รับรอง 174 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 37.18 ระดับมัธยมศึกษา เสนอ 178 แห่ง รับรอง 128 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 71.91 ไม่รับรอง 50 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 28.09 ระดับอาชีวศึกษา รัฐและเอกชน เสนอ 221 แห่ง รับรอง 189 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 85 และระดับอุดมศึกษา รับรอง 66 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 95
ศ.กิตติคุณ สมหวัง กล่าวถึงเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการได้มอบหมายให้ สมศ.รับผิดชอบในการช่วยเหลือโรงเรียนภาคใต้ ทาง สมศ.จะนำข้อมูลที่มีอยู่มาดูเป็นรายโรง ว่า จะช่วยอะไรได้บ้าง รวมทั้งจะช่วยด้วยวิธีใด เป็นต้น ซึ่งอาจนำเสนอให้พรรคการเมืองนำเรื่องการช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็ก หรือโรงเรียนภาคใต้ อยู่ในนโยบายของพรรค ดังนั้น ถ้าใครเป็นรัฐบาลในชุดต่อไป ทาง ศธ.ก็ได้เตรียมการไว้ให้อย่างดี นำข้อมูลและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดูแลโรงเรียนขนาดเล็ก และโรงเรียนทางใต้ ที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วๆ นี้ โดยชูเป็นนโยบายของพรรคการเมือง เพื่อเป็นตัวชี้วัดให้ประชาชนได้นำไปเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเลือกพรรค การเมือง
อย่างเช่น จัดตั้งกองทุนช่วยพัฒนาโรงเรียน หรือการสร้างบุคลากรทางการศึกษาให้ตรงกับความต้องการของตลาด อย่างในส่วนของอาชีวะ ต้องหาวิธีการ ไม่ให้อาชีวะไปมุ่งสู่การเรียนปริญญาตรี แต่ให้มีการเรียนที่นำไปสู่การทำงานที่ตรงกับความต้องการของตลาดที่มีคุณภาพ สำหรับระดับอุดมศึกษา จะผลิตบัณฑิตให้สอดคล้องกับตลาดแรงงาน ทั้งนี้ สมศ.จะนำเสนอต่อสาธารณชน และพรรคการเมือง