กาญจนบุรี – เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่กาญจนบุรี ให้รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารชี้แจงสื่อแทนหลังตกเป็นข่าวดังไปทั่วปล่อยให้งูเขี่ยวหางไหม้กัดผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินที่เข้าไปรับการรักษาจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยอ้างเป็นเหนุสุดวิสัย พร้อมรับผิดชอบค่าเสียหาย เตรียมส่งหรีดและร่วมเป็นเจ้าภาพงานศพคืนนี้ ขณะที่ภรรยาเหยื่องูเขียวหางไหม้ โวยทางโรงพยาบาลเพิ่งตื่นตัวขอร่วมเป็นเจ้าภาพตอนที่เป็นข่าวแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดกญจนบุรีถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า วันนี้ (6 ก.ย.50) เวลา 11.00 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พบนายแพทย์สุเพรียว อึ้งวิจารณ์ปัญญา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บและบานปลายจนเป็นเหตุให้นายวสันต์ ปิ่นปลื้มจิตต์ อายุ 42 ปี ผู้ป่วยที่ถูกงูเขียวหางไหม้กัดที่บริเวณแขนขวาตรงข้อพับจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยเหตุเกิดที่บนเตียงในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลกาญจนบุรีเมโมเรียล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
นายแพทย์สุเพรียว เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ผู้ป่วยที่เสียชีวิตรายนี้ทางโรงพยาบาลพหลฯ ได้รับการนำส่งมาจากโรงพยาบาลกาญจนบุรีเมโมเรียล ในเบื้องต้นได้รับรายงานจากแพทย์เจ้าของไข้ว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค.50 ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 12.00 น.ทางโรงพยาบาลกาญจนบุรีเมโมเรียล ได้นำส่งต่อผู้ป่วยที่ถูกงูเขียวหางไหม้กัด มารักษาตัวที่โรงพยาบาลพหลฯ ซึ่งทางแพทย์ก็ได้ทำการตรวจอาการเบื้องต้นและวินิจฉัยโรค จากนั้นได้ให้เซรุ่มไปจำนวน 3 ขวด โดยใช้เวลาในการรักษาเป็นเวลา 3 วัน และคนไข้ได้เสียชีวิตในช่วงเย็นของวันที่ 3 ก.ย.50 ที่ผ่านมา
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา กล่าวต่อว่า หลังจากทางญาติของผู้เสียชีวิตได้นำตัวผู้ป่วยมาส่งที่โรงพยาบาลทางแพทย์ที่รับผิดชอบได้ทำการรักษาพยาบาลตามขั้นตอนทุกอย่างและรู้ถึงสาเหตุเป็นอย่างดี เนื่องจากทางญาติได้นำเอางูเขียวหางไหม้ตัวที่กัดผู้ป่วยนั้นมาที่โรงพยาบาลพหลฯด้วย
“จากนั้นแพทย์ก็ได้ฉีดเซรุ่มให้กับผู้ป่วยเป็นจำนวน 3 ขวด ผู้ป่วยก็มีอาการดีขึ้นสามารถทานอาหารอะไรก็ได้ใน 2 วันแรก แต่เนื่องจากผู้ป่วยต้องคอยเฝ้าระวังเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งพอถึงวันที่ 3 ผู้ป่วยกับมีอาการแทรกซ้อนอย่างเห็นได้ชัด มีอาการเจ็บเม็ดเลือดขาวและบริเวณตรงแผลที่ถูกงูกัดอย่างรุนแรง และมีอาการไอเป็นเลือด และมีเลือดไหลออกมาที่จมูกและปาก แต่เนื่องจากผู้ป่วยได้เสียเลือดมาก จึงเกิดอาการช๊อกและเสียชีวิตในเวลาต่อมา” นายแพทย์สุเพรียว กล่าว
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลกาญจนบุรีเมโมเรียล ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อพบกับเจ้าของโรงพยาบาลแต่ได้รับการปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล โดยอ้างว่าขณะนี้เจ้าของโรงพยาบาลไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้เนื่องจากไม่สบาย แต่ทางโรงพยาบาลฯได้ให้นางจินดาวรรณ พรหมศิริพัฒน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของโรงพยาบาลกาญจนบุรีเมโมเรียล มาชี้แจงกับผู้สื่อข่าวแทน
โดยนางจินดาวรรณ กล่าวว่า สาเหตุที่มีงูเขียวหางไหม้กัดผู้ป่วยในโรงพยาบาลนั้นเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ถ้าหากพนักงานเห็นงูก่อนก็คงไม่เกิดเหตุเช่นนี้ได้แน่นอน สำหรับความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้กับทางญาติผู้เสียชีวิต ทางผู้บริหารของโรงพยาบาลยังไม่ได้พูดคุยกัน แต่สำหรับวันนี้ทางโรงพยาบาลได้โทรศัพท์ไปยังภรรยาของผู้เสียชีวิตแล้วว่า ทางเราจะขอไปเป็นเจ้าภาพในพิธีสวดพระอภิธรรมศพ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางญาติของผู้เสียชีวิตก็ตอบรับแล้วเช่นกัน
ต่อมาเวลา 12.00 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนางพนิดา ปิ่นปลื้มจิตต์ อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 135 หมู่ที่ 10 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นภรรยาของนายวสันต์ ปิ่นปลื้มจิตต์ ผู้เสียชีวิต โดยนางพนิดา เปิดเผยว่า เรื่องการดูแลและความช่วยของโรงพยาบาลเมโมเรียล นั้น หลังจากที่ตนได้นำศพมาทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเป็นเวลา 3 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเดินทางมาติดต่ออะไร แม้กระทั่งพวงหรีดสักพวงก็ยังไม่มี
แต่วันนี้ได้มีโทรศัพท์โทร.มาหาตนว่าทางโรงพยาบาลกาญจนบุรีเมโมเรียล จะขอเป็นเจ้าภาพในการสวดศพและเมื่อเกิดเป็นข่าวขึ้นอยากให้ทางโรงพยาบาลกาญจนบุรีเมโมเรียล เข้มงวดในการให้บริการต่อประชาชนที่เข้าไปใช้บริการ โดยเฉพาะในเรื่องความปลอดภัยในสถานที่ น่าจะมีการดูแลระบบการจัดการให้ดีกว่านี้เพื่อเป็นอุทธาหรณ์ในการปรับปรุงการบริหารภายในโรงพยาบาลเพื่อมิให้เกิดกับผู้ป่วยรายอื่นๆ อีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเรื่องงูกัดคนไข้ในโรงพยาบาลแพร่ออกสู่สาธารณะทำให้ชาวกาญจนบุรีต่างวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจากการเข้าไปสังเกตที่โรงพยาบาลกาญจนบุรีเมโมเรียลของผู้สื่อข่าว พบว่ามีการนำเอาเปลผู้ป่วยมาตั้งไว้รอรับผู้ป่วยนอกที่เดินทางมารับการรักษา ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ว่าสัตว์เลื้อยคลานจะเลื้อยเข้าไปอาศัยภายในเปล เพราะบริเวณรอบโรงพยาบาลมีการจัดสวนมีต้นไม้จำนวนมากและอาจจะมีสัตว์เลื้อยคลานอาศัยอยู่ได้และในวันเกิดเหตุเป็นช่วงที่มีฝนตกชุกติดต่อกันหลายวันอาจจะทำให้งูมาหลบนอนอยู่ในเปลก็ได้เช่นกัน