อุบลราชธานี-คนจีนรุ่นเก่าเมืองอุบลฯท้อคนรุ่นใหม่ไหว้พระจันทร์น้อยลง ขณะเดียวเจ้าของขายเครื่องไหว้วิตกไม่มีคนสืบทอดกิจการ เหตุเป็นเพราะปีหนึ่งมีเทศกาลไหว้แค่ครั้งเดียว ทั้งปริมาณคนไหว้ก็ลดน้อยถอยลง
วันนี้(28 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่ จ.อุบลราชธานีว่า ยังมีคนไทยและคนลาวเชื้อสายจีน ให้ความสำคัญกับเทศกาลดังกล่าวจำนวนมาก
นายบัง คูสสิริสิน อายุ 70 ปี เจ้าของร้านศรีสมชัย ซึ่งเป็นแหล่งทำโคมไฟกระดาษ และเครื่องไหว้ใช้ในพิธี ที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวของอีสานตอนล่างกล่าวว่า ยังมีคนจากต่างอำเภอ และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งคนจากประเทศลาว เดินทางเข้ามาซื้อเครื่องไหว้ไปใช้ประกอบพิธีไหว้พระจันทร์
ประกอบด้วย กง หรือโคมไฟใช้ไหว้พระจันทร์ แผ่นโป้ยเซียนตึ้ง คือ เทพยดาทั้ง 8 องค์ และเจ้าแม่กวนอิม รวมทั้งเต้า หรือถังเงินถังทอง โดยแต่ละปีร้านมียอดจำหน่ายประมาณ 5-7 หมื่นบาท
เจ้าของร้ายศรีสมชัยกล่าวต่อว่า ประกอบอาชีพทำเครื่องไหว้ในพิธีต่างๆมานานกว่า 36 ปี และเหตุที่ไม่มีทายาทคิดสืบทอดงานฝีมือด้านนี้ เพราะทำยากและแต่ละปีมีเทศกาลเพียงครั้งเดียว รวมทั้งผู้มาซื้อเครื่องไหว้ลดน้อยลงตามความเชื่อถือในแต่ละปีด้วย
ด้านนางองุ่น ตั้งเสริมสุขทวี เจ้าของร้านฮงฮวดพานิช ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายขนมใช้ไหว้พระจันทร์กล่าวว่า ขนมที่สั่งมาใช้ประกอบพิธีมีขนมโก๋ไผ่ ขนมเปี๊ยะ และขนมโหงวยิ้ง แต่ขนมที่ได้รับความนิยมใช้ในพิธีไหว้พระจันทร์คือ ขนมโหงวยิ้ง ซึ่งเป็นขนมเปี๊ยะที่ทำจากเม็ดผลไม้ 5 ชนิด และผู้ผลิตทำขึ้นเฉพาะในเทศกาลไหว้พระจันทร์เท่านั้น
สำหรับยอดสั่งขนมใช้ไหว้พระจันทร์มีไม่มาก เพราะวางขายได้ช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งที่ร้านจะเป็นตัวแทนจำหน่ายขนมยี่ห้อกอกใจ จากกรุงเทพฯ โดยมีทั้งขนมขันหมาก และขนมในเทศกาลสำคัญ ปัจจุบันมียอดสั่งซื้อน้อยลงทุกปี เพราะคนรุ่นใหม่แทบไม่รู้จักประเพณีนี้แล้ว
ขณะเดียวกันที่ชมรมศิษย์พระอรหันต์จี้กง ซึ่งเป็นสถานที่ใช้รวมตัวประกอบพิธีไหว้พระจันทร์ นายสุวัฒน์ ศิริคูณ เลขาประธานชมรมกล่าวว่า ได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ใช้ไหว้ และรับทราบความเป็นมาของพิธีที่มีความเชื่อว่า ผู้ที่ได้กราบไหว้พระจันทร์ทำให้มีจิตใจสบาย และต้องการให้คนรุ่นใหม่ได้สืบทอดประเพณีไหว้พระจันทร์ให้คงอยู่กับสังคมต่อไปด้วย
วันนี้(28 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่ จ.อุบลราชธานีว่า ยังมีคนไทยและคนลาวเชื้อสายจีน ให้ความสำคัญกับเทศกาลดังกล่าวจำนวนมาก
นายบัง คูสสิริสิน อายุ 70 ปี เจ้าของร้านศรีสมชัย ซึ่งเป็นแหล่งทำโคมไฟกระดาษ และเครื่องไหว้ใช้ในพิธี ที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวของอีสานตอนล่างกล่าวว่า ยังมีคนจากต่างอำเภอ และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งคนจากประเทศลาว เดินทางเข้ามาซื้อเครื่องไหว้ไปใช้ประกอบพิธีไหว้พระจันทร์
ประกอบด้วย กง หรือโคมไฟใช้ไหว้พระจันทร์ แผ่นโป้ยเซียนตึ้ง คือ เทพยดาทั้ง 8 องค์ และเจ้าแม่กวนอิม รวมทั้งเต้า หรือถังเงินถังทอง โดยแต่ละปีร้านมียอดจำหน่ายประมาณ 5-7 หมื่นบาท
เจ้าของร้ายศรีสมชัยกล่าวต่อว่า ประกอบอาชีพทำเครื่องไหว้ในพิธีต่างๆมานานกว่า 36 ปี และเหตุที่ไม่มีทายาทคิดสืบทอดงานฝีมือด้านนี้ เพราะทำยากและแต่ละปีมีเทศกาลเพียงครั้งเดียว รวมทั้งผู้มาซื้อเครื่องไหว้ลดน้อยลงตามความเชื่อถือในแต่ละปีด้วย
ด้านนางองุ่น ตั้งเสริมสุขทวี เจ้าของร้านฮงฮวดพานิช ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายขนมใช้ไหว้พระจันทร์กล่าวว่า ขนมที่สั่งมาใช้ประกอบพิธีมีขนมโก๋ไผ่ ขนมเปี๊ยะ และขนมโหงวยิ้ง แต่ขนมที่ได้รับความนิยมใช้ในพิธีไหว้พระจันทร์คือ ขนมโหงวยิ้ง ซึ่งเป็นขนมเปี๊ยะที่ทำจากเม็ดผลไม้ 5 ชนิด และผู้ผลิตทำขึ้นเฉพาะในเทศกาลไหว้พระจันทร์เท่านั้น
สำหรับยอดสั่งขนมใช้ไหว้พระจันทร์มีไม่มาก เพราะวางขายได้ช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งที่ร้านจะเป็นตัวแทนจำหน่ายขนมยี่ห้อกอกใจ จากกรุงเทพฯ โดยมีทั้งขนมขันหมาก และขนมในเทศกาลสำคัญ ปัจจุบันมียอดสั่งซื้อน้อยลงทุกปี เพราะคนรุ่นใหม่แทบไม่รู้จักประเพณีนี้แล้ว
ขณะเดียวกันที่ชมรมศิษย์พระอรหันต์จี้กง ซึ่งเป็นสถานที่ใช้รวมตัวประกอบพิธีไหว้พระจันทร์ นายสุวัฒน์ ศิริคูณ เลขาประธานชมรมกล่าวว่า ได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ใช้ไหว้ และรับทราบความเป็นมาของพิธีที่มีความเชื่อว่า ผู้ที่ได้กราบไหว้พระจันทร์ทำให้มีจิตใจสบาย และต้องการให้คนรุ่นใหม่ได้สืบทอดประเพณีไหว้พระจันทร์ให้คงอยู่กับสังคมต่อไปด้วย