ศุลกากรกัมพูชายันระงับนำเข้าเชื้อเพลิง-สินค้าเกษตรไทย แต่สินค้าอื่นนำเข้าได้ตามช่องทางที่กำหนด

MGR ออนไลน์ - ศุลกากรกัมพูชายืนยันว่ายังคงระงับการนำเข้าเชื้อเพลิง ก๊าซหุงต้ม และสินค้าเกษตรบางประเภทจากไทยผ่านจุดผ่านแดนทางบกบางแห่ง แต่อย่างไรก็ตาม สินค้าอื่นๆ ยังคงสามารถนำเข้าผ่านจุดตรวจอย่างเป็นทางการเช่น ท่าเรือและเส้นทางการค้าที่กำหนดไว้ได้

สำนักข่าวแคมโบเดียเดลีรายงานคำแถลงของศุลกากรระบุว่า ข้อจำกัดนี้มีผลบังคับใช้กับน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน และยางมะตอย รวมถึงผักและผลไม้ โดยมาตรการเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพไทยปิดจุดผ่านแดนทางบกหลายแห่งโดยฝ่ายเดียว

กรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชาได้ออกคำแถลงวันนี้ชี้แจงคำถามจากผู้สังเกตการณ์ในพื้นที่ว่าเหตุใดจึงมีผลกระทบเฉพาะทางบกว่า แม้ว่าเชื้อเพลิงและผักผลไม้สดจากไทยจะถูกห้ามนำเข้า แต่สินค้านำเข้าอื่นๆ ยังคงไม่ได้รับผลกระทบ โดยผู้ค้ายังสามารถนำเข้าสินค้าเหล่านั้นได้โดยต้องปฏิบัติตามพิธีการขั้นตอนทางศุลกากรและข้อกำหนดด้านเอกสาร

กรมศุลกากรยังระบุว่าเส้นทางการขนส่งยังคงเปิดให้บริการผ่านจุดเข้าออกอย่างเป็นทางการทุกแห่ง ยกเว้นพรมแดนทางบกที่ไทยปิดอยู่ในปัจจุบัน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. กัมพูชาได้จำกัดเฉพาะการนำเข้าผักและผลไม้จากไทย แม้ว่าไทยจะปิดด่านชายแดนไปแล้วเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. โดยไม่มีข้อตกลงร่วมกัน นับตั้งแต่นั้นมา กัมพูชาได้เรียกร้องให้ไทยเปิดพรมแดนหลายครั้ง โดยระบุว่าหากไทยยกเลิกการปิดพรมแดน กัมพูชาจะยกเลิกการห้ามนำเข้าพืชผลทันที แต่อย่างไรก็ตาม ไทยยังคงยืนกรานในจุดยืนดังกล่าว

ในวันที่ 22 มิ.ย. นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้สั่งระงับการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติจากไทยอย่างเต็มรูปแบบ

และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ฮุนเซน ผู้นำพรรครัฐบาลเรียกร้องให้รัฐบาลขยายระยะเวลาการจำกัดการนำเข้าออกไปอีก โดยรายการสินค้าที่ขยายออกไปนี้ รวมถึงสินค้าที่ถือเป็น “สินค้ายุทธศาสตร์” เช่น ไฟฟ้า บริการอินเทอร์เน็ต และภาพยนตร์ไทย นอกจากนี้ เขายังสั่งระงับการฉายภาพยนตร์ไทยในกัมพูชาด้วย

ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. กัมพูชาได้สั่งห้ามการนำเข้าสินค้า 11 ประเภทจากไทย ที่รวมถึงผัก ผลไม้ น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ก๊าซหุงต้ม ยางมะตอย เชื้อเพลิงอากาศยาน ไฟฟ้า บริการอินเทอร์เน็ต ภาพยนตร์ และกระทั่งนักมวยไทย

ในบางจังหวัด นักท่องเที่ยวรายงานว่าพบความว่างเปล่าบนชั้นวางสินค้าที่เคยเป็นของไทย และเพื่อแก้ปัญหาจากผลกระทบที่เกิดขึ้น ธุรกิจบางแห่งต้องหันไปหาสินค้าจากเวียดนามมาทดแทน.