ผู้จัดการรายวัน- ไทยกำลังเตรียมการเปิดสถานกงสุลใหญ่ในเมืองด่าหนัง จ.กว๋างนาม ในภาคกลางของเวียดนาม เพื่อรองรับการเดินทางไปมาหาสู่กันระหว่างประชาชนไทยกับประชาชนเวียดนาม หลังจากเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 ซึ่งจะเป็นการเปิดเส้นทางคมนาคมทางบกที่สำคัญในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง การก่อสร้างสะพานแห่งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จตามกำหนดในปลายปี 2549
เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงฮานอย นายกริช ไกรจิตติ เปิดเผยเรื่องนี้ในการให้สัมภาษณ์วิทยุเวียดนาม ระหว่างการนำคณะทูตานุทูตของประเทศต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่องค์การระหว่างประเทศ เดินทางสำรวจเส้นทางในลาว และไทยเป็นเวลา 10 วันระหว่างวันที่ 11-21 พ.ย.ที่ผ่านมา
คณะทูตานุทูตได้เดินทางจากกรุงฮานอย ไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ของลาวตามทางหลวงหมายเลข 8 และเลข 13 ก่อนจะข้ามสะพานมิตรภาพมายังฝั่ง จ.หนองคาย เดินทางต่อไปยัง จ.อุดรธานี มุกดาหาร อุบลราชธานี และข้ามกลับเข้าไปในลาวเยือนแขวงจำปาสัก ก่อนจะเดินทางต่อไปยังแขวงสะหวันนะเขต และกลับสู่ภาคกลางเวียดนามโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 9
การเดินทางสำรวจเส้นทางครั้งนี้ เพื่อให้นานาประเทศได้เห็นสภาพข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการขนส่งทางบกระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่น้ำโขง หรือ ACMECS รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย นางสาวมาลินดา มนูญชัย กงสุลใหญ่ไทย ณ เมืองสะหวันนะเขต กล่าวกับ "ผู้จัดการรายวัน" เมื่อวันพุธ (23 พ.ค.) นี้
"เขาใช้เทคนิคพิเศษในการก่อสร้างสะพาน เพื่อจะให้แล้วเสร็จตามกำหนดปลายปีหน้า" กงสุลใหญ่ไทยกล่าวถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 "มุกดาหาร-สะหวันนะเขต" ที่หยุดลงชั่วขณะหนึ่งหลังจากเกิดอุบัติปั้นจั่นพังทลาย ทำให้มีพนักงานเสียชีวิตไปหลายคนในช่วงกลางปีนี้
เอกอัครราชทูตไทยกล่าว สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 นี้จะเปิดศักราชใหม่แห่งการขนส่งสินค้าและการเดินทางท่องเที่ยว จะทำให้การเดินทางระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย กับจังหวัดทางภาคกลางของเวียดนาม ผ่านจุดผ่านแดนลาวบ๋าว (Lao Bao) นั้น มีความสะดวกโดยมีระยะทางเพียง 500 กม. เท่านั้น ทั้งนี้เป็นรายงานของวิทยุเวียดนาม ซึ่ง "ผู้จัดการรายวัน" รับฟังได้ในกรุงเทพฯ
"ไทย ลาว และเวียดนาม ได้ร่วมกันหาทางส่งเสริมการไปมาหาสู่กันตลอดช่วง 2-3 ปีมานี้พร้อมทั้งยังได้ช่วยส่งเสริมให้ คณะผู้แทนต่างๆ และองค์การระหว่างประเทศ ที่มีส่วนสนับสนุนการพัฒนาเส้นทางเหล่านี้ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างประเทศ ที่ส่งเสริมให้มีการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว เป็นการนำมาซึ่งการ สร้างงานและสร้างรายได้ให้กับประชาชนของทั้ง 3 ประเทศ" เอกอัครราชทูตไทยกล่าว
บรรดาทูตานุทูตกับเจ้าหน้าที่องค์การระหว่างประเทศที่ร่วมเดินทางในคณะใหญ่นี้ ยังรวมทั้งผู้อำนวยการธนาคารพัฒนาเอเชีย ประจำเวียดนาม เอกอัครราชทูตอินเดีย สเปน และเนเธอร์แลนด์ ด้วย วิทยุของทางการเวียดนามกล่าว.
