“ต่าย อรทัย” อัปเดตผลงานเพลง-ละคร ปรับรับงานบาลานซ์ชีวิต เผยเคล็ดลับสุขภาพดีแม้ทำงานหนัก ยันโสดสนิท แม้มีหนุ่มคุยแต่ไม่คลิก ส่วนใหญ่มีครอบครัวแล้ว
คร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน สำหรับนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “ต่าย อรทัย” แม้ปัจจุบันจะมีนักร้องรุ่นใหม่เกิดขึ้นมากมาย แต่เจ้าตัวก็ยังยืนหยัดอยู่ได้ตลอด
ล่าสุด ต่าย อรทัย ออกมาอัปเดตผลงาน พร้อมเผยวิธีการรับงานใหม่ เพื่อบาลานซ์ชีวิตมากขึ้น ยืนยันสถานะยังโสด แม้ที่ผ่านมามีคนคุยบ้าง แต่ยังไม่ใช่ก็จบเหตุส่วนใหญ่มีครอบครัว
“ทำงานไปตามตารางค่ะ งานคอนเสิร์ตเรามันเป็นช่วงหน้าฝน ดีหน่อยต่อให้ละครถ่าย 3 วัน ต่อ 1 อาทิตย์ ก็สามารถมีคิวงอกได้อยู่บ้าง คิวที่จะไปถ่ายรายการเพื่อโปรโมตเพลงใหม่ก็พอมีคิวให้กับทีมงานพีอาร์อยู่ แต่ว่าเราก็คือลุยได้เต็มที่ ขอหนักๆ แค่ช่วงนี้ก่อน เหมือนละครจะออนแอร์ประมาณกลางเดือนกันยายน ซึ่งเหมือนเป็นคิวออนแอร์มาค่อนข้างชัวร์แล้ว พอทางกองละครได้เปิดกล้องไปก็ต้องรีบถ่าย ก็ต้องทำการบ้านก็ต้องรีบถ่ายตัวเองก็ต้องดูแลสุขภาพให้ดี นอนยังไงก็ได้ให้พอ แต่จริงๆ เราก็เต็มที่อยู่แล้วเพราะเราได้รับงานนี้แล้ว”
เปลี่ยนการรับงานใหม่ เพื่อบาลานซ์ชีวิตมากขึ้น
“เรื่องสุขภาพถ้ามันนอนไม่พอถ่ายหนักมากๆ อาจจะมีไม่สบาย แต่ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยคิดว่าพี่น้องนักแสดงทุกคนมีอาการนี้เหมือนกัน แต่ทุกคนก็คือทุ่มให้กับละครเรื่องนี้ อันนี้คิดว่าทุกคนเต็มที่มากๆ
เคยเข้าโรงพยาบาลครั้งหนึ่ง อันนี้ไม่เกี่ยวกับนักแสดง ตอนนั้นเป็นนักร้องอยู่อาจจะงานราษฎร์ งานหลวง แล้วพักผ่อนไม่พอเหมือนมันจะวูบ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งนานมากๆ 10 กว่าปีที่ผ่านมาแล้ว มันทำให้การทำงานของเราได้ไม่เต็มร้อย เราก็เลยรู้สึกว่ามันจะไปกระทบกับงานที่เรารับไว้ เลยเปลี่ยนการรับงานใหม่ และเปลี่ยนการใช้ชีวิตใหม่หลังจากนั้นก็เริ่มออกกำลังกายพักผ่อนให้พอ บาลานซ์การทำงานให้มันอยู่กึ่งกลางให้ เลือกรับงานงานที่เข้ามาส่วนใหญ่ก็เป็นงานคอนเสิร์ต ซึ่งเราก็รับได้เกือบทุกงานอยู่แล้ว เพียงแค่ว่าถ้ามันหนักเกินไปเดินทางไม่ไหวไม่ได้นอน ก็เลือกที่จะบอกว่าคิวเต็มแล้วซึ่งแล้วแต่ทางผู้จัดการเราจะอธิบาย งานเราไม่ได้เยอะขนาดนั้น เดือนหนึ่ง 50-60 งาน”
โชคดีที่ทุกวันนี้ยังมีคนรักและคอยสนับสนุน ยังมีงานโชว์ งานจ้างอยู่ตลอด
“แต่รู้สึกได้ถ้าวันนี้ทุกคนยังอยากดูเราอยู่ นั่นก็หมายถึงว่าเรายังมีผลงานอยู่ ซึ่งต้องขอบคุณแกรมมี่โกลด์ด้วยที่ยังออกผลงานให้เรา ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณทุกภาคส่วนซึ่งเราก็ยังอยากทำงานตรงนี้อยู่ ตราบใดที่ยังมีการลงทุนเราเองก็ยังอยู่ตรงนี้ พร้อมที่จะดูแลสุขภาพดูแลเส้นเสียงทุกอย่างรูปแบบการโชว์เราเองก็พยายามพัฒนาโชว์ใหม่ๆ
อย่างปีหนึ่งก็จะมีหนึ่งโชว์ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เราก็ทำสิ่งนี้ขึ้นมาใหม่ๆ เจ้าภาพก็ยังไม่เห็นว่าเราอยากให้ความสำคัญเพราะเรายังอยากทำงานตรงนี้อยู่เราก็เชื่อว่าน่าจะเป็นเหตุผลนี้ที่เจ้าภาพอยากจ้างงานเราอยู่ งานต่างประเทศก็ยังมีบ้างแต่เป็นช่วงหน้าฝนก็ยังดีหน่อย อย่างวันนี้มีงานที่ไทยแต่ไทยยังจัดงานไม่ได้ก็ไปที่โน่นแทน ไปฝรั่งเศสและเยอรมันมาแล้ว ตอนนี้ถ่ายละครยาวๆ”
มองว่าทุกคนมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน อย่าเทียบรุ่นเก่ารุ่นใหม่
“ส่วนที่มองว่านักร้องรุ่นใหม่เกิดเยอะแต่ก็ยังไม่มีใครฆ่าเราตาย อย่าเรียกว่าฆ่าเลยค่ะ มันคนละทางกันมากกว่าไม่มีใครมาฆ่าใคร ต่ายก็ต่าย พี่น้องคนอื่นก็มีชื่อของใครของมัน ความสามารถแตกต่างกัน ความชื่นชอบของแฟนเพลงมากกว่า เรามองว่าคือชอบแบบไหนก็ไปดูแบบนั้น
เราเชื่อว่าแนวเพลงมีหลากหลาย มันไม่ได้มีแค่เอ็นเตอร์เทนอย่างเดียว เราอาจจะไม่ได้ถนัดเรื่องเอ็นเตอร์เทนมาตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ ปัจจุบันเราก็ยังไม่ได้ใส่เอ็นเตอร์เทน เอาเป็นว่าก็ยังเล่นในรูปแบบของเรา มันได้แค่นี้จริงๆ เราก็ยังเป็นเรา ลองเปลี่ยนแล้วไม่ได้ ก็มีแซวหน้าเวทีดูบรรยากาศว่าเป็นยังไง ลองแล้วไม่คือทำแล้วมันก็เขินด้วยแล้วมันก็ไม่ใช่เราด้วย แต่แฟนเพลงก็จะงงๆ ด้วยบอกเอาพี่ต่ายกลับคืนมา”
ยอมรับมีหนุ่มเข้ามาจีบ
“ก็ยังโสดค่ะ ก็ไม่ได้ปล่อยนะคะ จริงๆ เรามีทีมงานเราก็โอเคนะ สนุกส่วนใหญ่ทีมงานก็โสดด้วยกันเกือบทุกคน จริงๆ มันอาจจะยังไม่ถึงเวลาหรือเปล่า ก็มีคนเข้ามาคุยบ้างแต่เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ซึ่งเราก็จะไม่คุยต่อ สเปกไม่เคยตั้งเลย เป็นคนที่ไม่เคยตั้งสเปกเลยว่าจะเอายังไง เราคิดว่าถ้ารู้สึกว่ามาแล้วคุยกันแล้วสบายใจ คุยกันแล้วเข้าใจ เราว่าต้องมีองค์รวมหลายๆ อย่าง ที่มาจีบส่วนมากจะเป็นรุ่นใหญ่ ซึ่งก็มีครอบครัวไปหมดแล้ว เราก็รู้สึกว่าอุ้ยอย่ามาเลย แต่อันนี้ไม่รู้ว่ามีครอบครัวเขาเลิกไปหรือยัง ก็จะรู้ว่าเขามีอะไรอย่างนั้นเราก็รู้สึกว่าไม่ดีกว่า จริงๆ ก็ไม่เคยปิดนะแต่เขาอาจจะไม่กล้าหรือเปล่า พูดทุกครั้งที่เราสัมภาษณ์ เราก็บอกว่าไม่เคยปิดไม่ค่อยเปิดก็อยู่แบบนี้ ก็ไม่ได้ปิดร้อยเปอร์เซ็นต์
จริงๆ เลือกงานดีกว่า เพราะว่าถ้าเราดูแลชีวิตตัวเองได้ เราก็สบายนะถ้าเกิดมีงานมีเงินดูแลตัวเองครอบครัวได้ เราจะไปหวังพึ่งใคร เพราะเราไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาเขาจะพึ่งแบบไหน พึ่งเงินหรือพึ่งความสะดวกสบาย เราไม่รู้ว่าใครคนนั้นจะให้คำตอบเราได้”
