xs
xsm
sm
md
lg

อึ้ง "จาตุรงค์" รับ เคยโดนตุ๊ดตุ๋ย!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หันมาจับปากกาเขียนหนังสือกับเขาบ้างใน "อรอนงค์" ท่ามกลางกระแสที่คนดังมากมายฮิตทำกัน งานนี้ตลกชื่อดัง "จาตุรงค์ ม๊กจ๊ก" เลยไม่แคล้วถูกมองว่าทำตามกระแส แค่นั้นยังไม่พอเพราะพองานหนังสือออกมาได้ไม่ทันไรเจ้าตัวก็ต้องประสบกับปัญหาทางร่างกายถึงกับกระดูกหักสองท่อนเลยทีเดียว

"สาเหตุที่ผมกระดูกหักมาจากการที่ผมออกกำลังกายทุกวันจนกระดูกเคล็ดแต่ไม่ยอมหยุด ยังฝืนทำงานอยู่ทุกวันจนกระดูกเกิดอาการร้าว ในที่สุดขณะที่อยู่ในห้องน้ำกำลังจะเดินออกจากห้องน้ำกระดูกหักดังเป๊าะ ขาท่อนล่างห้อยต่องแต่ง เดินไม่ได้ ต้องเรียกคนในบ้านช่วยพยุงและนำไปส่งโรงพยาบาล"

"หมอก็รีบจับเข้าห้องผ่าตัดด่วน เข้ารักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 3 วัน อาการเริ่มดีขี้นผมจึงออกมารักษาตัวที่บ้าน คุณหมอยังไม่อนุญาติให้เดินเพราะกลัวกระดูกที่ผ่าตัดดามเหล็กไว้ข้างในจะอักเสบจึงให้ใช้ไม้ค้ำเดินเพื่อลดน้ำหนักตัวที่จะลงไปที่ขา"

"คุณหมอบอกว่าประมาณเดือนครึ่งกระดูกจะเข้าที่ตอนนี้ไปไหนมาไหนก็ใช้ไม้ค้ำเดินตลอด อยากฝากเตือนคนที่คิดว่าร่างกายแข็แรงแล้วฝืนใช้ร่างกายออกกำลังมากๆ จนสภาพร่างกายรับไม่ไหวอาจจะเป็นเหมือนผม ซึ่งไม่คุ้มเลย"

โขยกเขยกไปออกรายการ "ขอบอก" (เทปคืนวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน เวลา 4 ทุ่ม สิบนาที ช่อง 5) เล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ในหนังสือของตนเองว่าไม่ได้ต้องการที่จะทำคนอื่นหรือตามกระแส เพียงแต่เกิดอาการอยากจะทำจริงๆ ก่อนจะเล่าถึงเรื่องครั้งหนึ่งของการเสียตัวของตนเองที่หลายคนต้องอึ้ง เพราะตลกชื่อดังบอกว่าเคยถูกตุ๊ดตุ๋ยบั้นท้ายมาแล้ว!!

"มันเหมือนกับองค์ลงจริงๆ นะ อยากจะรวบรวมเรื่องราวความสนุก ที่ตลกๆ ของตัวเองให้ได้อ่านกัน ซึ่งเรื่องเศร้า รันทด หดหู่ ลำบากจะไม่มีในหนังสือนี้แน่นอน สำหรับเรื่องที่มีคนสงสัยว่าผมเป็นกะเทยหรือเปล่า หนังสือเล่มนี้จะบอกทั้งหมด คือผมไม่ได้เป็นกะเทยอย่างที่เป็นข่าวเลย"

"แต่เป็นเพราะก่อนจะมาเป็นตลกผมอยู่คณะคาบาเร่ต์มาก่อน ซึ่งเพื่อนผมกว่า 90% เป็นกะเทยพออยู่ไปนานๆ เชื้อมันคงจะติดมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือท่าทางต่างๆ จนเข้ามาเป็นตลกและเข้ามาวงการบันเทิงผมก็ยังติดกับภาพนั้นอยู่ มันคงเป็นสิ่งที่ผมคุ้นเคยและถนัดมั้ง"

"ส่วนเรื่องโดนตุ๋ย คือ ถ้าผมไม่เสียบั้นท้ายให้กับเขาก็คงจะไม่มีผมในวันนี้ ตอนนั้นอายุแค่ 18 ปีผมหนีแม่มาจากบ้านนอกแล้วมาอยู่วงดนตรีลูกทุ่งเพราะอยากเป็นนักร้องมาก แต่เขาก็บอกว่าต้องเป็นหางเครื่องก่อน แล้วมีพี่ที่เป็นครูสอนเต้นมาบอกผมว่าพรุ่งนี้จะให้ขึ้นวงมีค่าตัวให้ด้วยแต่คืนนี้ต้องไปเที่ยวกับพี่ก่อน"

"ผมก็ไป จนตีสองเขาเลี้ยวรถเข้าโรงแรม ตอนแรกผมก็ไม่ยอม เขาก็บอกว่าถ้าไม่ยอมก็เก็บเสื้อผ้ากลับบ้านนอกไป จะทำอย่างไรล่ะ ผมหนีมาแล้ว ที่นอนก็ไม่มี เงินก็ไม่มีและผมคิดว่าหางเครื่องผู้ชายในวงก็คงจะโดนเหมือนผม แล้วเราจะอายทำไม ก็เลยต้องยอมทนครับ"

"ซึ่งผมไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิด แต่หลังจากนั้นเป็นจุดที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยน ผมได้มาเป็นหางเครื่อง ได้เป็นตลก จนก้าวเข้ามาทำงานในวงการก็ต้องขอบคุณเขา ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังเจอเขาอยู่เลยก็ช่วยหลือเท่าที่ผมจะทำได้ครับ ที่ผมมาเผยในวันนี้ผมไม่อยากให้ใครเอาอย่างผมนะ อยากให้รู้และคิดว่าชีวิตคนเราไม่ได้สวยงามเลย"
กำลังโหลดความคิดเห็น