xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์”ยันไทยได้เปรียบค้าเสรีผักผลไม้จีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”ยันไทยได้เปรียบดุลการค้าผักและผลไม้กับจีน หลังเปิดเสรีระหว่างกัน เผยกระเทียมและหอมหัวใหญ่ที่ทะลักเข้ามา เป็นส่วนที่นำเข้านอกโควตา และเสียภาษีสูงมาก ในโควตายังไม่เปิดให้นำเข้า เกษตรกรไม่กระทบ เพราะราคาสูงกว่า ระบุการนำเข้ามีมาตรการสุขอนามัยคุมเข้ม สินค้าไม่ดี ไม่ได้ผ่านเข้าแน่
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงการค้าผักและผลไม้ภายใต้เขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) อาเซียน-จีน ว่า การลดภาษีสินค้าผักและผลไม้ ได้มีการลดภาษีระหว่างกันในการเปิดเสรีนำร่องภายใต้เอฟทีเอไทย-จีน ซึ่งเป็นการลดภาษีก่อนอาเซียนอื่นตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2546 โดยการค้ามีการขยายตัวมาโดยตลอด และไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าจีนทั้งผักและผลไม้
โดยในส่วนของผัก ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (2547-2549) การส่งออกมีอัตราการขยายตัวสูงถึง 41.10% ต่อปี ส่วนการนำเข้าขยายตัว 30.15% ต่อปี และในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2550 (ม.ค.-ต.ค.) ไทยส่งออกได้สูงถึง 300.70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 42.88% และนำเข้า 66.60 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 26.23% โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 234.10 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกมาก คือ มันสำปะหลัง สินค้าที่นำเข้ามาก เช่น แครอท เห็ดแห้ง ดอกกะหล่ำ บล๊อกโคลี่ กระเทียม เห็ดหูหนูแห้ง หอมหัวใหญ่ และหอมหัวเล็ก
ส่วนผลไม้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การส่งออกมีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 16.81% การนำเข้าเติบโตเฉลี่ยปีละ 13.65% โดยในช่วง 10 เดือนแรก ไทยส่งออกผลไม้ไปจีนแล้ว 107.10 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.82% นำเข้า 85.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 23.14% ได้ดุลการค้า 21.60 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าที่ไทยส่งออกไปจีนได้มาก เช่น มันสำปะหลัง ทุเรียน ลำไย มังคุด และนำเข้า เช่น แครอทและเทอร์นิป กระเทียม แอปเปิ้ล แพร์ แปะก๊วย
นางสาวชุติมากล่าวว่า ในการเปิดเสรีผักและผลไม้กับจีน แม้ว่ากระเทียมและหอมหัวใหญ่ จะเป็นสินค้าที่อยู่ในรายการลดภาษี และมีการถูกโจมตีมาโดยตลอดว่ามีสินค้าจากจีนทะลักเข้ามาจนกระทบกับเกษตรกรภายในประเทศ แต่ข้อเท็จจริง สินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่มีมาตรการโควตาภาษี ซึ่งอาเซียนและจีนตกลงกันว่าจะลดภาษีเฉพาะในโควตาเท่านั้น โดยกระเทียมมีโควตานำเข้าปีละ 65 ตัน หอมหัวใหญ่ 365 ตัน และจะต้องขออนุญาตก่อนการนำเข้า
“ตั้งแต่เอฟทีเออาเซียน-จีน มีผลบังคับใช้ ยังไม่มีการนำเข้ากระเทียมและหัวหอมใหญ่จากจีนภายใต้โควตา แต่เป็นการนำเข้านอกโควตา ซึ่งไม่มีการลดภาษีที่มีอัตราสูงถึง 57% และ 142% ตามลำดับ จึงไม่กระทบกับผลผลิตของเกษตรกรที่เพาะปลูกสินค้าดังกล่าวในประเทศ”นางสาวชุติมากล่าว
นอกจากนี้ การค้าสินค้าผักและผลไม้ของไทยและจีน จะต้องมีการตรวจสอบด้านสุขอนามัยก่อนจะนำเข้าประเทศ โดยสินค้าจากต่างประเทศที่ส่งเข้าไปจีนจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 13% ซึ่งจีนเรียกเก็บจากสินค้าของทุกประเทศในอัตราเดียวกัน รวมถึงเก็บจากผู้ประกอบการผักผลไม้ในจีนด้วย ไม่ถือเป็นการได้เปรียบเสียเปรียบ สำหรับไทยมีการยกเว้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรไม่แปรรูป ซึ่งไทยได้ยกเว้นการเก็บภาษีนี้จากทุกประเทศเช่นเดียวกัน
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าจีนกีดกันผู้นำเข้าต่างชาติ ปัจจุบันนี้ จีนได้อนุญาตให้บริษัทต่างชาติสามารถเป็นผู้นำเข้าได้ แต่ต้องมีคุณสมบัติตามระเบียบ เช่น จะต้องตั้งอยู่ในประเทศจีน และมีทุนจดทะเบียน และรูปแบบการจัดตั้งบริษัทที่รัฐบาลจีนกำหนด
สำหรับการเปิดเสรีภายใต้เอฟทีเออาเซียน-จีน สำหรับสินค้าเกษตรไม่แปรรูป พิกัดอัตราศุลกากร 01-08 ขณะนี้ภาษีศุลกากรได้ลดลงเหลือ 0% ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2549 ที่ผ่านมา โดยการค้าระหว่างกันได้เพิ่มขึ้นจาก 498.80 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2547 เป็น 802.30 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2549 โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าจีนในการค้าสินค้าดังกล่าวมาโดยตลอด สินค้าสำคัญในกลุ่มนี้ ได้แก่ ปลาและสัตว์น้ำ เช่น ปลาแช่แข็ง กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง สินค้าผักและผลไม้ เช่น มันสำปะหลัง พืชผักแช่เย็น และสินค้าผลไม้
กำลังโหลดความคิดเห็น