ททท.รื้อแผนประชาสัมพันธ์ตลาดต่างประเทศ หันใช้บริการเอเจนซี่อีกครั้ง หลังถูกพับเก็บไปเมื่อสมัย”จุฑามาศ” เตรียมประกาศหาผู้สนใจเข้าร่วมประมูลงานสิงหาคมนี้ ระบุเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใช้มืออาชีพที่มีเครือข่ายมาร่วมวางแผน ตอกย้ำแบรนด์ประเทศไทย ควบคู่ไปกับการทำตลาดเชิงรุก ฟื้นภาพลักษณ์ประเทศไทย ส่วนในประเทศ ปัดฝุ่นแคมเปญ “เที่ยวทั่วไทยไปได้ทุกเดือน”
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมจัดทำแผนการตลาดท่องเที่ยวปี 2551 ในส่วนของตลาดต่างประเทศ ได้ข้อสรุปว่า จะเปิดให้บริษัทเอเจนซี่ ครีเอทีฟ ที่สนใจ เข้ามาประมูลงานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อจะได้มาดำเนินการวางแผนโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้แก่ททท. โดย เบื้องต้นจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลการเปิดรับสมัคร และคัดเลือกบริษัทที่เข้าประมูล คณะกรรมการชุดนี้จะประกอบด้วยประธานซึ่งจะเป็นระดับรองผู้ว่าการททท. และกรรมการที่มาจากทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชนรวมทั้งคณะ 9-11 คน ได้แก่ ตัวแทนจากแอตต้า เป็นต้น คาดว่าขั้นตอนการกำหนดหลักเกณฑ์ การประกาศยื่นซองพร้อมเปิดประมูลได้ประมาณเดือน สิงหาคมนี้
ทั้งนี้ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ททท.ไม่มีการจัดจ้างเอเจนซี่ที่มาดูแลในตลาดต่างประเทศ แต่กลับนำงบประมาณมาใช้จัดกิจกรรมหรืออีเว้นต์ภายในประเทศ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ททท.จะมีการจ้างเอเยนซี่ดูแลตลาดต่างประเทศมาโดยตลอด และมองว่า ทั้งสองอย่างควรดำเนินการไปพร้อมๆกัน ดังนั้นจึงจะนำรูปแบบการทำงานในอดีตกลับมาใช้แต่ปรับปรุงให้ดีขึ้น และจะจัดจ้างเอเยนซี่ที่จะเข้ามาดูแลในตลาดต่างประเทศ แต่ส่วนของการจัดงานอีเว้นต์ จะดำเนินการร่วมกับพันธมิตร ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้
โดยหน้าที่หลักของเอเยนซี่ คือ การคิดคอนเซปต์ หรือธีมที่จะโปรโมตประเทศไทย คิดประโยคที่จดจำได้ง่ายๆ ภายใต้คอนเซปต์หลักคือ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์” นอกจากนั้นยังต้องทำงานในด้านของการวางแผนประชาสัมพันธ์ ออกแบบโฆษณา สปอร์ตโฆษณา พริ้นแอด และการซื้อสื่อในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ซึ่งเอเจนซี่ที่จะเข้ามาดูแลควรจะเป็นบริษัทที่มีเครือข่ายในต่างประเทศด้วย เพื่อใช้การทำงานผ่านเครืองข่ายที่มีอยู่ ได้เต็มประสิทธิภาพ
“ ก่อนหน้านี้ ครีเอทีฟ ที่ดูแลงานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ของ ททท. มีหลายบริษัทแล้วแต่บริษัทใดจะประมูลได้ เช่น ลีโอเบอร์เนท ,เดนท์สุ เป็นต้น และมีการตั้งสโลแกนด้านการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศไทย ที่ติดหูติดตา ในหมู่นักท่องเที่ยวและบริษัทนำเที่ยวมากที่สุด เช่น อะเมซิ่งไทยแลนด อันซีนอิน ไทยแลนด์ เป็นต้น ซึ่งบริษัทเหล่านี้เป็นมืออาชีพด้านการวางแผน ขณะที่ ททท.เองก็จะทำงานด้านการด้านที่ควบคู่กันไป “
**ฟื้นกิจกรรมเที่ยวทั่วไทยไปได้ทุกเดือน **
นางพรศิริ กล่าวอีกว่า ในการประชุมจัดทำแผนการตลาดการท่องเที่ยวปี 2551 สาระการทำงานที่สำคัญจะต้องอยู่บนพื้นฐานหลัก ตามดีมานของตลาดต่างประเทศ และซัพพลายของตลาดในประเทศ ที่สามารถรองรับความต้องการ ประกอบกับทิศทางการดำเนินงานที่ขานรับกับนโยบายของ ดร.สุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คือเน้นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยให้มีการขยายตลาดนีช มาร์เก็ต กลุ่มครอบครัว คู่แต่งงานและเยาวชน รณรงค์ส่งเสริมไทยเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง และการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน
จากแนวทางดังกล่าว ททท.จะได้แปลงนโยบายสู่การปฏิบัติ โดยวางแนวทางการดำเนินงานด้านสินค้า แบ่งเป็นกลยุทธ์การส่งเสริมตลาดต่างประเทศและกลยุทธ์การส่งเสริมตลาดในประเทศ โดยเฉพาะการกำหนดคัดเลือกสินค้ากิจกรรมการท่องเที่ยว เป็นการจัดกลุ่มเพื่อการตลาด ซึ่งจะนำเอาแนวคิดกิจกรรมเที่ยวทั่วไทยไปได้ทุกเดือนเมื่อปี 2545 ที่ได้รับความนิยมกลับมาใช้อีกครั้ง ในส่วนของสินค้าที่จะนำเสนอ จะแบ่งเป็น 12 กลุ่ม เทรนดี้ ,ไลฟ์สไตล์, เมดิคัล ,สปารีแร็กซ์,ชอปปิ้ง ,วิถีชีวิต, สร้างเสริมประสบการณ์(Hand on) เป็นต้น
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมจัดทำแผนการตลาดท่องเที่ยวปี 2551 ในส่วนของตลาดต่างประเทศ ได้ข้อสรุปว่า จะเปิดให้บริษัทเอเจนซี่ ครีเอทีฟ ที่สนใจ เข้ามาประมูลงานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อจะได้มาดำเนินการวางแผนโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้แก่ททท. โดย เบื้องต้นจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลการเปิดรับสมัคร และคัดเลือกบริษัทที่เข้าประมูล คณะกรรมการชุดนี้จะประกอบด้วยประธานซึ่งจะเป็นระดับรองผู้ว่าการททท. และกรรมการที่มาจากทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชนรวมทั้งคณะ 9-11 คน ได้แก่ ตัวแทนจากแอตต้า เป็นต้น คาดว่าขั้นตอนการกำหนดหลักเกณฑ์ การประกาศยื่นซองพร้อมเปิดประมูลได้ประมาณเดือน สิงหาคมนี้
ทั้งนี้ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ททท.ไม่มีการจัดจ้างเอเจนซี่ที่มาดูแลในตลาดต่างประเทศ แต่กลับนำงบประมาณมาใช้จัดกิจกรรมหรืออีเว้นต์ภายในประเทศ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ททท.จะมีการจ้างเอเยนซี่ดูแลตลาดต่างประเทศมาโดยตลอด และมองว่า ทั้งสองอย่างควรดำเนินการไปพร้อมๆกัน ดังนั้นจึงจะนำรูปแบบการทำงานในอดีตกลับมาใช้แต่ปรับปรุงให้ดีขึ้น และจะจัดจ้างเอเยนซี่ที่จะเข้ามาดูแลในตลาดต่างประเทศ แต่ส่วนของการจัดงานอีเว้นต์ จะดำเนินการร่วมกับพันธมิตร ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้
โดยหน้าที่หลักของเอเยนซี่ คือ การคิดคอนเซปต์ หรือธีมที่จะโปรโมตประเทศไทย คิดประโยคที่จดจำได้ง่ายๆ ภายใต้คอนเซปต์หลักคือ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์” นอกจากนั้นยังต้องทำงานในด้านของการวางแผนประชาสัมพันธ์ ออกแบบโฆษณา สปอร์ตโฆษณา พริ้นแอด และการซื้อสื่อในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ซึ่งเอเจนซี่ที่จะเข้ามาดูแลควรจะเป็นบริษัทที่มีเครือข่ายในต่างประเทศด้วย เพื่อใช้การทำงานผ่านเครืองข่ายที่มีอยู่ ได้เต็มประสิทธิภาพ
“ ก่อนหน้านี้ ครีเอทีฟ ที่ดูแลงานด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ของ ททท. มีหลายบริษัทแล้วแต่บริษัทใดจะประมูลได้ เช่น ลีโอเบอร์เนท ,เดนท์สุ เป็นต้น และมีการตั้งสโลแกนด้านการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศไทย ที่ติดหูติดตา ในหมู่นักท่องเที่ยวและบริษัทนำเที่ยวมากที่สุด เช่น อะเมซิ่งไทยแลนด อันซีนอิน ไทยแลนด์ เป็นต้น ซึ่งบริษัทเหล่านี้เป็นมืออาชีพด้านการวางแผน ขณะที่ ททท.เองก็จะทำงานด้านการด้านที่ควบคู่กันไป “
**ฟื้นกิจกรรมเที่ยวทั่วไทยไปได้ทุกเดือน **
นางพรศิริ กล่าวอีกว่า ในการประชุมจัดทำแผนการตลาดการท่องเที่ยวปี 2551 สาระการทำงานที่สำคัญจะต้องอยู่บนพื้นฐานหลัก ตามดีมานของตลาดต่างประเทศ และซัพพลายของตลาดในประเทศ ที่สามารถรองรับความต้องการ ประกอบกับทิศทางการดำเนินงานที่ขานรับกับนโยบายของ ดร.สุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คือเน้นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยให้มีการขยายตลาดนีช มาร์เก็ต กลุ่มครอบครัว คู่แต่งงานและเยาวชน รณรงค์ส่งเสริมไทยเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง และการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน
จากแนวทางดังกล่าว ททท.จะได้แปลงนโยบายสู่การปฏิบัติ โดยวางแนวทางการดำเนินงานด้านสินค้า แบ่งเป็นกลยุทธ์การส่งเสริมตลาดต่างประเทศและกลยุทธ์การส่งเสริมตลาดในประเทศ โดยเฉพาะการกำหนดคัดเลือกสินค้ากิจกรรมการท่องเที่ยว เป็นการจัดกลุ่มเพื่อการตลาด ซึ่งจะนำเอาแนวคิดกิจกรรมเที่ยวทั่วไทยไปได้ทุกเดือนเมื่อปี 2545 ที่ได้รับความนิยมกลับมาใช้อีกครั้ง ในส่วนของสินค้าที่จะนำเสนอ จะแบ่งเป็น 12 กลุ่ม เทรนดี้ ,ไลฟ์สไตล์, เมดิคัล ,สปารีแร็กซ์,ชอปปิ้ง ,วิถีชีวิต, สร้างเสริมประสบการณ์(Hand on) เป็นต้น