xs
xsm
sm
md
lg

ทิ้งทวนก่อนเลือกตั้ง เว้นภาษีขึ้นเงินเดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ทักษิณ" ทิ้งทวนก่อนยุบสภาฯ ใช้เงินรัฐหว่านซื้อคนชั้นกลาง-ล่าง เว้นภาษี-ขึ้นเงินเดือนพนง.รสก. ขรก.และลูกจ้างประจำ ส่วนคนอายุเกิน 65 ปีขึ้นรถเมล์ ขสมก. รถไฟชั้น 3 ฟรี ด้านขุนคลัง-เพ้งประสานเสียงเลื่อนเมกะโปรเจกต์ ขณะที่สภาพัฒน์เตรียมปรับลดจีดีพีหลังราคาน้ำมันยังสูง เจ้าสัวซีพีชเลียร์เต็มที่ ชี้แม้ววิสัยทัศน์สุดยอด

วานนี้ (24 ก.พ.) ที่กระทรวงต่างประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมงานสัมมนาที่รัฐบาลจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "การบริหารนโยบายเศรษฐกิจปี 2549" โดยเชิญนักธุรกิจภาคเอกชน ได้แก่ นายธนินทร์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ และประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เข้าร่วม การสัมมนาใช้เวลาตั้งแต่ 10.00-14.30น. หรือ 4 ชั่วโมงเศษ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หัวข้อการสัมมนาประกอบด้วย การพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือประชาชนในระดับกลางและระดับรากหญ้า เพื่อลดความกังวลต่ออัตราค่าครองชีพที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ปัญหาด้านแรงงานของภาครัฐและเอกชน

ภายหลังการสัมมนาฯ นายวราเทพ รัตนากร รมช.คลัง เปิดเผยถึงการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ผู้มีรายได้น้อยว่า ได้หารือเกี่ยวกับการขยายเพดานภาษีเงินได้แบบเหมาจ่ายของผู้มีอาชีพอิสระทั่วไป เช่น พ่อค้า แม่ค้า ทั่วไป จากเดิมกำหนดเพดานผู้มีเงินได้ไม่ถึง 60,000 บาทไม่ต้องเสียภาษี ก็เพิ่มเป็นไม่ถึง 1 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี หากมีรายได้เกินกว่า 1 ล้านบาท จะเสียภาษีในอัตราร้อยละ 0.5 เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย โดยมาตรการทั้งหมดจะหารือในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งและจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

***ขึ้นเงินเดือนขรก.-ลูกจ้าง5%

นายทนง พิทยะ รมว.คลัง กล่าวว่า มาตรการภาษีที่ออกมาเพื่อลดภาระให้แก่ประชาชนทั่วไปนั้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมเหมือนกับผู้ที่มีรายได้ประจำที่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย

นอกจากนี้ ยังจะพิจารณาปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 350,000 คน อีกร้อยละ 5 รวมถึงพนักงานรัฐวิสาหกิจ เพื่อเป็นการปรับเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับการปรับเงินเดือนของข้าราชการและให้ย้อนหลังเดือนตุลาคม 2548 ตลอดจนการให้กระทรวงการคลังนำร่องทั้งหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการคลังรับนักศึกษาฝึกงานในช่วงปิดเทอม ซึ่งรองรับได้ประมาณ 12,000 บาท โดยจ่ายเบี้ยเลี้ยงชั่วโมงละ 25 บาท โดยยืนยันมาตรการทั้งหมดไม่กระทบรายได้ภาษีของรัฐบาลมากนัก

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรียังจะเสนอการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่วิสาหกิจชุมชนที่มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี คนชราอายุ 65 ปีขึ้นไปขึ้นรถเมล์ ขสมก. และรถไฟชั้น 3 โดยไม่ต้องจ่ายค่าโดยสาร

***เมกะโปรเจกต์เลื่อน

ส่วนโครงการเมกะโปรเจกต์ นายทนงยอมรับว่าอาจต้องเลื่อนเสนอโครงการออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่กำหนดไว้ปลายเดือนเมษายนนี้ เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศขอใช้เวลาศึกษาโครงการเมกะโปรเจกต์อย่างละเอียด ดังนั้น จึงพยายามให้การก่อสร้างโครงการของรัฐที่ดำเนินการเอง เช่น บ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ โครงการของกระทรวงสาธารณสุข และกรมชลประทาน หากมีความพร้อมก็ให้เดินหน้าไปก่อน โดยยืนยันในปี 2549 จะให้มีเม็ดเงินลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์ 250,000 ล้านบาท

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ในสัปดาห์ตนทางจะหากับนายกฯ ในการเลื่อนระยะเวลาจากเดิมออกไป 1 เดือน ที่จะให้นักลงทุนยื่นซองประมูลโครงการเมกกะโปรเจกต์ออกไปในเดือนเมษายน 49 เพราะนักลงทุนเห็นว่าควรจะมีการศึกษามากกว่านี้ ที่จะเข้ามาตั้งสำนักงานในประเทศไทย ซึ่งนักลงทุนหลายฝ่ายแสดงเหตุสอดคล้องกัน

**"สมคิด" ลั่นไม่มีปัญหาความเชื่อมั่น

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นในด้านเศรษฐกิจ โดยนายกรัฐมนตรียังสามารถดูแลเรื่องนี้ไว้ได้เป็นอย่างดี และในการประชุมวันนี้จะมีการหารือถึงภาพรวมของเศรษฐกิจ เพื่อให้สามารถกำหนดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมทั้งภาครัฐและเอกชน

นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเบื้องต้นน่าจะเป็นเรื่องการสร้างความเข้าใจให้ชัดเจนก่อน เพราะสถานการณ์การเมืองขณะนี้มีผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ เพราะทำให้เกิดความกังวล แต่จะเป็นสิ่งที่นำไปสู่จารีตประชาธิปไตยที่ดี

ส่วนกรณีการขายหุ้นชินคอร์ป นายพันศักดิ์กล่าวว่า เป็นเพียงการกล่าวหานายกรัฐมนตรีแบบลอยๆ ไม่มีหลักฐาน เรื่องจริยธรรมเป็นเรื่องที่น่ารำคาญ เรื่องนี้ ก.ล.ต.ก็นำหลักฐานออกมาชี้แจงจนกระจ่างแล้ว

***สภาพัฒน์เตรียมปรับจีดีพี

นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันสูงเกินประมาณการ ดังนั้นในวันที่ 6 มีนาคม ทางสภาพัฒน์ จะทบทวนการประมาณการทางเศรษฐกิจใหม่ พร้อมกับเร่งหามาตรการประหยัดพลังงาน เพิ่มขึ้นและจากการฟังความคิดเห็นของนักลงทุนในห้องประชุมมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ แต่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเพิ่มในเรื่องของข้อมูลในการลงทุน

นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ปัจจัยการเมืองเริ่มมีความสำคัญต่อการลงทุน แต่เห็นได้ว่าดัชนีหุ้นไทยได้สะท้อนความกังวลไปในทางที่ดีขึ้น เพราะอยู่ในสภาพทรงตัวและมีเสถียรภาพจากที่เคยเป็นห่วงมากในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ตลาดหุ้นจะเป็นกังวลมากถ้าหากเกิดเหตุการณ์รุนแรง แต่คาดว่าคงจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น เพราะรัฐบาลเตรียมดึงปัญหาเข้ามาอยู่ในระบบสภาฯ รวมทั้งการหารือกับนักวิชาการและจากการพูดคุยกับนักลงทุนต่างประเทศ เห็นว่าไม่เป็นห่วงเรื่องการเมือง เพราะเศรษฐกิจและสังคมไทยพัฒนาไปมาก สำหรับการประชุมระหว่างคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจและภาคเอกชนในครั้งนี้ คงไม่มีมาตรการอะไรมากระตุ้นเศรษฐกิจเป็นพิเศษ แต่จะเป็นการระดมความคิดเห็นจากภาคเอกชน

***เจ้าสัวซีพีชเลียร์แม้ว

นายธนินทร์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้พูดถึงความตั้งใจเพื่อจะนำพาเศรษฐกิจไทยเดินไปข้างหน้าด้วยความเข้มแข็ง โดยเฉพาะการพัฒนาพลังงานทดแทน ซึ่งต้องตั้งเป็นวาระแห่งชาติ ไม่เช่นนั้นในระยะยาวไทยจะแข่งขันลำบาก ซึ่งส่วนตัวเห็นว่านายกรัฐมนตรีเป็นคนมีวิสัยทัศน์ เก่งด้านเศรษฐกิจมากคนหนึ่งในระดับโลก ต่างประเทศเชื่อมั่นและชมว่านายกรัฐมนตรีของไทยมีความสามารถ แต่อาจจะไม่เก่งด้านการเมือง ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทุกฝ่ายปรับความเข้าใจกันเพื่อไม่ให้เกิดภาวะชะงักงัน เนื่องจากการเมืองมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจแน่นอน

“อยากให้มีการแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับการทำงานเพื่อประเทศชาติ อยากให้ทุกคนถามตัวเองว่าเราเลือกนายกรัฐมนตรีมาบริหารประเทศใช่หรือไม่ ซึ่งจากการติดตามการทำงานในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ผมเห็นว่าได้มีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างได้ผล แต่ขณะนี้ไม่ได้มองแยกระหว่างเรื่องส่วนตัวและส่วนรวม ทำให้เกิดความไม่เข้าใจหลายอย่าง ซึ่งสิ่งนี้ผมเป็นห่วงว่าจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไม่ราบรื่น” นายธนินทร์ กล่าว

นายบุณยสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ แต่ในฐานะที่เป็นพ่อค้าทำมาค้าขายนาน เห็นว่าการแก้ปัญหาของรัฐบาลมาถูกทางทุกอย่าง เพียงแต่บางอย่างอาจจะไม่ทันใจ และตนเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้มีผลกระทบและไม่เกิดผลดีต่อประเทศ รวมถึงความเชื่อมั่น ถ้าผ่านไปอีกประมาณ 1 ปี โดยไม่มีเหตุการณ์ทำให้เกิดความชะงัก เศรษฐกิจไทยจะขึ้นสู่ระดับมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ที่พูดไม่ได้หมายความว่าไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการตามระบอบประชาธิปไตย เพียงทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวที่อยากจะเห็นเศรษฐกิจไทยเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น