อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม สั่งปิดห้องเย็นที่มีปัญหาสารแอมโมเนียรั่วบริเวณถนนเจริญกรุงแล้ว เพื่อให้แก้ไขปรับปรุงใหม่ และเตรียมเดินสายออกตรวจสอบโรงงานที่มีการใช้งานระบบทำความเย็นที่ใช้แอมโมเนียเป็นสารทำความเย็นทั่วกรุงเทพฯ หากพบว่าโรงงานใดมีปัญหาจะสั่งการให้ปรับปรุงแก้ไขทันที
สืบเนื่องจากกรณีที่ห้องเย็นบริเวณถนนเจริญกรุง เกิดปัญหามีสารแอมโมเนียส่งกลิ่นเหม็น และมีประชาชนได้รับความเดือดร้อน ล่าสุด นายรัชดา สิงคาลวณิช อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เข้าไปตรวจสอบ และพบว่า ปัญหามาจากระบบทำความเย็นรั่ว จึงได้สั่งการให้ปิดโรงงานและปรับปรุงแก้ไขจนกว่าจะเรียบร้อย โดยโรงงานดังกล่าวจะต้องรับภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งเกิดขึ้นกับผู้ป่วยทุกคนในบริเวณรอบโรงงาน ขณะเดียวกัน ได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดทำมาตรการระยะสั้น เพื่อออกตรวจสอบโรงงานที่มีการใช้งานระบบทำความเย็นที่ใช้แอมโมเนียเป็นสารทำความเย็นในกรุงเทพฯ โดยเริ่มตรวจโรงงานที่มีอายุใช้งานเกิน 20 ปี เป็นโรงงานห้องเย็น 35 โรง โรงงานทำน้ำแข็ง 33 โรง คาดว่าจะเริ่มตรวจสอบในสัปดาห์หน้าและแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ซึ่งถ้าพบว่าโรงงานใดมีปัญหาจะต้องสั่งการให้ปรับปรุงแก้ไขทันที
สำหรับมาตรการระยะยาว นายรัชดา กล่าวว่า จะต้องออกตรวจสอบโรงงานนอกพื้นที่ กทม. และปัจจุบันกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ยกร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับระบบทำความเย็นเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการนำเสนอเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่การออกแบบ ติดตั้ง การใช้งาน การบำรุงรักษา รวมถึงบุคลากรที่ทำหน้าที่ควบคุมระบบทำความเย็น
ส่วนการจัดเก็บค่ามลพิษ ปัจจุบันกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้คิดสูตรเสร็จแล้ว และได้เสนอคณะกรรมการควบคุมมลพิษให้พิจารณา โดยจะใช้กับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดก่อน ซึ่งหลักการจะนำรายได้จัดเก็บจากเอกชนมาตั้งเป็นกองทุน เพื่อใช้ประโยชน์กับชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งน่าจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย แต่ต้องรอคณะกรรมการอนุมัติก่อน
สืบเนื่องจากกรณีที่ห้องเย็นบริเวณถนนเจริญกรุง เกิดปัญหามีสารแอมโมเนียส่งกลิ่นเหม็น และมีประชาชนได้รับความเดือดร้อน ล่าสุด นายรัชดา สิงคาลวณิช อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เข้าไปตรวจสอบ และพบว่า ปัญหามาจากระบบทำความเย็นรั่ว จึงได้สั่งการให้ปิดโรงงานและปรับปรุงแก้ไขจนกว่าจะเรียบร้อย โดยโรงงานดังกล่าวจะต้องรับภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งเกิดขึ้นกับผู้ป่วยทุกคนในบริเวณรอบโรงงาน ขณะเดียวกัน ได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดทำมาตรการระยะสั้น เพื่อออกตรวจสอบโรงงานที่มีการใช้งานระบบทำความเย็นที่ใช้แอมโมเนียเป็นสารทำความเย็นในกรุงเทพฯ โดยเริ่มตรวจโรงงานที่มีอายุใช้งานเกิน 20 ปี เป็นโรงงานห้องเย็น 35 โรง โรงงานทำน้ำแข็ง 33 โรง คาดว่าจะเริ่มตรวจสอบในสัปดาห์หน้าและแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ซึ่งถ้าพบว่าโรงงานใดมีปัญหาจะต้องสั่งการให้ปรับปรุงแก้ไขทันที
สำหรับมาตรการระยะยาว นายรัชดา กล่าวว่า จะต้องออกตรวจสอบโรงงานนอกพื้นที่ กทม. และปัจจุบันกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ยกร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับระบบทำความเย็นเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการนำเสนอเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่การออกแบบ ติดตั้ง การใช้งาน การบำรุงรักษา รวมถึงบุคลากรที่ทำหน้าที่ควบคุมระบบทำความเย็น
ส่วนการจัดเก็บค่ามลพิษ ปัจจุบันกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้คิดสูตรเสร็จแล้ว และได้เสนอคณะกรรมการควบคุมมลพิษให้พิจารณา โดยจะใช้กับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดก่อน ซึ่งหลักการจะนำรายได้จัดเก็บจากเอกชนมาตั้งเป็นกองทุน เพื่อใช้ประโยชน์กับชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งน่าจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย แต่ต้องรอคณะกรรมการอนุมัติก่อน