กบง.เห็นชอบปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ เหลือเพียง 1 บาทต่อลิตร เพื่อสะท้อนต้นทุนการผลิตที่แท้จริงและเพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น ส่งผลให้ราคาแก๊สโซฮอล์ลดลง 30-50 สตางค์ต่อลิตร โดยจะมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.)
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบง. มีมติเห็นชอบการปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมัน ของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ จาก 1.50 บาทต่อลิตร ให้เหลือเพียง 1 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้การจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ราคาจะลดลง 50 สตางค์ต่อลิตร และราคาถูกกว่าเบนซิน 95 ไม่ต่ำกว่า 2.50 บาทต่อลิตร และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 30 สตางค์ต่อลิตร และราคาถูกกว่าเบนซินออกเทน 91 ไม่ต่ำกว่า 2 บาทต่อลิตร นอกจากนี้ ให้มีการปรับปรุงสูตรกำหนดราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ให้แก่ผู้ประกอบการมากขึ้น เพื่อให้สะท้อนต้นทุนการผลิตที่เป็นจริงของผู้ค้าน้ำมัน และช่วยส่งเสริมการผลิต ทั้งนี้ ทั้งการปรับอัตราส่งเข้ากองทุนและสูตรราคา ณ โรงกลั่นฯ ใหม่ของแก๊สโซฮอล์ 91 ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2550 เป็นต้นไป
สำหรับการลดอัตราส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ และไบโอดีเซล เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานทดแทนน้ำมันมากยิ่งขึ้น ตามเป้าหมายปี 2550 ส่งเสริมการใช้เอทานอล จำนวน 1 ล้านลิตรต่อวัน เพื่อผสมเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ จำนวน 10 ล้านลิตรต่อวัน เพื่อใช้เป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 จำนวน 6 ล้านลิตรต่อวัน และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 จำนวน 4 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งจากการดำเนินนโยบายดังกล่าวไม่ส่งผลให้การชำระหนี้กองทุนน้ำมันต้องช้าลงแต่อย่างใด
นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยเพิ่มเติมว่า กระทรวงพลังงานจะเดินหน้าส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์อย่างต่อเนื่องและจริงจัง เพื่อทดแทนและลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ สำหรับการยกเลิกการใช้เบนซิน 95 จะค่อยๆ ทยอยยกเลิกเมื่อปริมาณการใช้แก๊สโซฮอล์เพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นก่อน
ทั้งนี้ ปัจจุบันกระทรวงพลังงานได้รับแจ้งจากผู้ค้าน้ำมัน ตามมาตรา 7 แต่ละรายว่า ได้เริ่มทยอยลดหัวจ่ายน้ำมันในส่วนของเบนซิน 95 ลงแล้ว อันจะทำให้มีสถานีบริการแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้น อาทิ ปั๊มน้ำมันของ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ที่เดิมมีเพียงแค่ 110 แห่ง ที่ยังจำหน่ายเบนซิน 95 อยู่ จากทั้งหมด 850 แห่ง แต่ภายในเดือนกรกฎาคม 2550 นี้ บางจากจะเหลือปั๊มจำหน่ายเบนซิน 95 เพียง 50 ปั๊ม ขณะที่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ก็ได้มีการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 95 ในทุกปั๊มน้ำมันของบริษัทเรียบร้อยแล้ว ประมาณ 1,200 แห่ง รวมทั้งอยู่ระหว่างทยอยลดการจำหน่ายเบนซิน 95 เช่นกัน
นางปรียาภรณ์ วิเวกาภิรัต ที่ปรึกษากระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เหตุผลที่กระทรวงพลังงานยังไม่สามารถยกเลิกการจำหน่ายเบนซิน 95 ได้ในทันทีนั้น เนื่องจากยังมีกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ประมาณ 500,000 คัน ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ผลิตก่อนปี พ.ศ.2538 ที่ยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ได้ และอาจเกิดผลกระทบ โดยกลุ่มรถยนต์เหล่านี้ยังติดปัญหาระบบเทคนิคของรถยนต์ ที่ยังมีอะลูมิเนียมอัลลอยด์ เป็นองค์ประกอบในเครื่องยนต์แบบคาร์บูเรเตอร์ และท่อทางเดินน้ำมันที่มียางธรรมชาติ โดยเรื่องดังกล่าว กระทรวงพลังงานจะหาทางออกด้วยการให้รถยนต์เฉพาะรุ่นที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ไม่ได้ ปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 91 แทน รวมทั้งการให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ออกมารณรงค์สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยรวม และการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ถึงคุณภาพน้ำมันแก๊สโซฮอล์ โดยร่วมมือกับผู้ค้าน้ำมันทั้งสิ้น 7 ราย รับรองว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์จะไม่มีผลต่อเครื่องยนต์ และหากพบว่ามีปัญหากับเครื่องยนต์ที่เกิดจากการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ก็ยินดีที่จะซ่อมรถยนต์ให้ฟรีทันที
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบง. มีมติเห็นชอบการปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมัน ของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ จาก 1.50 บาทต่อลิตร ให้เหลือเพียง 1 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้การจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ราคาจะลดลง 50 สตางค์ต่อลิตร และราคาถูกกว่าเบนซิน 95 ไม่ต่ำกว่า 2.50 บาทต่อลิตร และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 30 สตางค์ต่อลิตร และราคาถูกกว่าเบนซินออกเทน 91 ไม่ต่ำกว่า 2 บาทต่อลิตร นอกจากนี้ ให้มีการปรับปรุงสูตรกำหนดราคา ณ โรงกลั่นของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ให้แก่ผู้ประกอบการมากขึ้น เพื่อให้สะท้อนต้นทุนการผลิตที่เป็นจริงของผู้ค้าน้ำมัน และช่วยส่งเสริมการผลิต ทั้งนี้ ทั้งการปรับอัตราส่งเข้ากองทุนและสูตรราคา ณ โรงกลั่นฯ ใหม่ของแก๊สโซฮอล์ 91 ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2550 เป็นต้นไป
สำหรับการลดอัตราส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ และไบโอดีเซล เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานทดแทนน้ำมันมากยิ่งขึ้น ตามเป้าหมายปี 2550 ส่งเสริมการใช้เอทานอล จำนวน 1 ล้านลิตรต่อวัน เพื่อผสมเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ จำนวน 10 ล้านลิตรต่อวัน เพื่อใช้เป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 จำนวน 6 ล้านลิตรต่อวัน และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 จำนวน 4 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งจากการดำเนินนโยบายดังกล่าวไม่ส่งผลให้การชำระหนี้กองทุนน้ำมันต้องช้าลงแต่อย่างใด
นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยเพิ่มเติมว่า กระทรวงพลังงานจะเดินหน้าส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์อย่างต่อเนื่องและจริงจัง เพื่อทดแทนและลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ สำหรับการยกเลิกการใช้เบนซิน 95 จะค่อยๆ ทยอยยกเลิกเมื่อปริมาณการใช้แก๊สโซฮอล์เพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นก่อน
ทั้งนี้ ปัจจุบันกระทรวงพลังงานได้รับแจ้งจากผู้ค้าน้ำมัน ตามมาตรา 7 แต่ละรายว่า ได้เริ่มทยอยลดหัวจ่ายน้ำมันในส่วนของเบนซิน 95 ลงแล้ว อันจะทำให้มีสถานีบริการแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้น อาทิ ปั๊มน้ำมันของ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ที่เดิมมีเพียงแค่ 110 แห่ง ที่ยังจำหน่ายเบนซิน 95 อยู่ จากทั้งหมด 850 แห่ง แต่ภายในเดือนกรกฎาคม 2550 นี้ บางจากจะเหลือปั๊มจำหน่ายเบนซิน 95 เพียง 50 ปั๊ม ขณะที่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ก็ได้มีการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 95 ในทุกปั๊มน้ำมันของบริษัทเรียบร้อยแล้ว ประมาณ 1,200 แห่ง รวมทั้งอยู่ระหว่างทยอยลดการจำหน่ายเบนซิน 95 เช่นกัน
นางปรียาภรณ์ วิเวกาภิรัต ที่ปรึกษากระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เหตุผลที่กระทรวงพลังงานยังไม่สามารถยกเลิกการจำหน่ายเบนซิน 95 ได้ในทันทีนั้น เนื่องจากยังมีกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ประมาณ 500,000 คัน ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ผลิตก่อนปี พ.ศ.2538 ที่ยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ได้ และอาจเกิดผลกระทบ โดยกลุ่มรถยนต์เหล่านี้ยังติดปัญหาระบบเทคนิคของรถยนต์ ที่ยังมีอะลูมิเนียมอัลลอยด์ เป็นองค์ประกอบในเครื่องยนต์แบบคาร์บูเรเตอร์ และท่อทางเดินน้ำมันที่มียางธรรมชาติ โดยเรื่องดังกล่าว กระทรวงพลังงานจะหาทางออกด้วยการให้รถยนต์เฉพาะรุ่นที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ไม่ได้ ปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 91 แทน รวมทั้งการให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ออกมารณรงค์สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคหันมาใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยรวม และการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ถึงคุณภาพน้ำมันแก๊สโซฮอล์ โดยร่วมมือกับผู้ค้าน้ำมันทั้งสิ้น 7 ราย รับรองว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์จะไม่มีผลต่อเครื่องยนต์ และหากพบว่ามีปัญหากับเครื่องยนต์ที่เกิดจากการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ก็ยินดีที่จะซ่อมรถยนต์ให้ฟรีทันที