xs
xsm
sm
md
lg

เออาร์ทีดิ้นสู้ดึงมือดี "ซีอาร์ซี" คุม ควบทีมใหม่ลุยปรับรูปแบบ-ยันหุ้น สสว.ยังอยู่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เออาร์ทีดิ้นสู้  ล่าสุดดึงมืออาชีพทีมใหม่เข้าบริหาร คว้าตัว "พิทักษ์ ตันพิบูลย์วงศ์" มือดีจากค่ายซีอาร์ซีเข้ามารั้งตำแหน่งเอ็มดี  ยันสถานภาพตอนนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้ง สสว.และ ธพว.ยังถือหุ้นอยู่  ย้ำขาดทุนแน่นอนเพราะตั้งขึ้นไม่ได้หวังผลกำไร พร้อมลุยปรับรูปแบบการทำงาน

หลังจากที่ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท รวมค้าปลีกเข้มแข็ง จำกัด หรือ เออาร์ที ว่างเว้นมานานกว่าปีเศษ และการดำเนินงานยังล้มลุกคลุกคลานมาตลอดนั้น พร้อมกับการที่นายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีนโยบายที่จะให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. ถอนหุ้นออกจากบริษัท รวมค้าปลีกเข้มแข็ง จำกัด นั้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ชะตากรรมว่าจะเป็นอย่างไร ทว่าเออาร์ทีก็มีการเปลี่ยนแปลงมาตลอด ล่าสุดได้ผู้บริหารทีมใหม่เข้ามารับผิดชอบแล้ว

โดยตำแหน่งกรรมการผู้จัดการนั้น ได้แต่งตั้งนายพิทักษ์ ตันพิบูลย์วงศ์ ซึ่งอดีตเป็นผู้บริหารของธุรกิจร้านโฮมเวิร์คในเครือของซีอาร์ซี เข้ามารับผิดชอบ ขณะเดียวกันก็มีผู้บริหารคนใหม่ในระดับรองลงมาคือ ผู้จัดการฝ่ายหลายฝ่ายทั้ง ฝ่ายสารสนเทศ ฝ่ายบุคคล ฝ่ายบัญชี โดยทั้งองค์กรมีพนักงานรวมกรรมการผู้จัดการด้วยประมาณ 47 คน

นายพิทักษ์ ตันพิบูลย์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รวมค้าปลีกเข้มแข็ง จำกัด หรือ เออาร์ที เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ขณะนี้บริษัทฯ ยังไม่ได้รับแจ้งเป็นทางการจากทางกระทรวงอุตสาหกรรมหรือ สสว. กรณีที่จะให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ถอนหุ้นที่ถืออยู่ใน เออาร์ที จำนวน 51% ออกทั้งหมด หลังจากที่ประสบภาวะขาดทุนมาตลอดกว่า 108 ล้านบาท อีกทั้งสถานภาพของบริษัทขณะนี้ก็ยังเป็นปรกติ แต่ยอมรับว่ามีผลประกอบการขาดทุนแน่นอน ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของการตั้งบริษัททฯ นี้ขึ้นมาอยู่แล้วที่จะไม่แสวงหากำไร เพียงแต่ตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยของไทยให้สามารถที่จะทำธุรกิจได้ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจค้าปลีกโดยรวม

"การดำเนินงานจากนี้ไปยังเหมือนเดิม และจะมีความเข้มข้นมากขึ้น หลังจากที่เราได้ปรับอะไรหลายๆ อย่างแล้วให้เข้ารูปเข้ารอย แต่คงต้องใช้ระยะเวลาบ้าง เพราะเราเพิ่งมาใหม่ไม่กี่เดือน ส่วนกรณีจะปิดบริษัทหรือใครจะถอนหุ้นนั้น ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่อนาคตผมยังไม่รู้ เรายังขาดทุนอยู่แน่ๆ แต่จะทำอย่างไรให้ขาดทุนน้อยลง" นายพิทักษ์กล่าว

ปัจจุบันเออาร์ทีมีทุนจดทะเบียน 395 ล้านบาท โดย สสว.ถือหุ้น 51% และอีก 49% ยังถือหุ้นโดยธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (ธพว.) ซึ่งขณะนี้ทุนจดทะเบียนชำระเต็มแล้ว ยังไม่มีการเพิ่มทุนจดทะเบียน ซึ่งที่ผ่านมาได้ลงทุนเรื่องหลักๆ ไปแล้ว เช่น สารสนเทศ ประมาณ 250 ล้านบาท

เขากล่าวด้วยว่า รายรับของเออาร์ทีก็คือการได้ค่าส่วนต่างเพียง 1% จากยอดขายของกลุ่มสมาชิกทั้งหลายเท่านั้น รวมไปถึงค่าการตลาดที่เออาร์ทีเป็นผู่ทำการตลาดให้กับสินค้าโอทอปต่างๆ ซึ่งไม่ได้มากมายนัก ขณะที่ค่าใช้จ่ายมีมากจึงขาดทุน

สำหรับสถานภาพของเออาร์ทีตอนนี้ ที่ผ่านมาได้มีการปรับรูปแบบการทำงานหลายอย่าง เช่น การรับออเดอร์จากสมาชิกทุกรูปแบบจ ากเดิมที่รับออเดอร์มาแล้วติดต่อตรงไปยังซัปพลายเออร์ แต่สมาชิกบางรายอาจจะไม่ได้รับความสะดวก จึงได้ปรับโดยมีการตั้งทีมงานขึ้นมาเองและรับออเดอร์จากสมาชิก แล้วให้พันธมิตรเป็นผู้จัดส่ง ขณะนี้คือ ส.สรรพกิจ และอยู่ระหว่างที่จะหาพันธมิตรเพิ่มขึ้นอีก

นายพิทักษ์กล่าวว่า เครือข่ายของเออาร์ทีเวลานี้มี 3 ประเภทคือ 1.กลุ่มร้านค้าสมาชิก ปัจจุบันมีประมาณ 14,000 รายทั่วประเทศ ตั้งเป้าหมายสิ้นปีนี้จะมีประมาณ 15,000-16,000 ราย ซึ่งเป็นร้านขนาดเล็กแบบโชห่วย โดยเออาร์ทีจะช่วยเหลือในแง่ของการหาสินค้าให้ขาย เป็นสินค้าประเภทขายง่ายและรวดเร็วจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ขณะนี้มีประมาณ 800 รายการแล้ว จากหลายซัปพลายเออร์

2.กลุ่มร้านค้าต้นแบบหรือแฟรนไชส์ ขณะนี้มี 18 สาขาแล้ว ล่าสุดเพิ่งเปิดที่สวนมะลิ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีประมาณ 50 ร้านค้า ซึ่งที่ผ่านมาได้ปรับรูปแบบของการลงทุนบ้างเพื่อให้เกิดความเหมาะสม โดยร้านค้าต้นแบบประเภท 1. ร้านขนาด 1 คูหา ลงทุนรวมค่าสินค้าประมาณ 900,000 บาท ประเภทที่ 2. ขนาด 2 คูหา ลงทุนประมาณ 1.3 ล้านบาท รวมค่าสินค้าด้วย โดยจะมีสถาบันการเงินเอสเอ็มอีเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนให้กับผู้ที่สนใจด้วย และประเภทที่ 3. แบบคีออส ลงทุนประมาณ 50,000 บาท แบ่งเป็นค่าสินค้า 25,000 บาท และค่ารถคีออส 25,000 บาท

3.พันธกิจที่ได้รับมอบหมาย เช่น สินค้าโอทอป โดยที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในการทำตลาดกับสินค้าโอทอปจำนวนมาก ถึงขณะนี้มีการติดตั้งบาร์โค้ดในหลายสินค้าแล้ว ซึ่งเออาร์ทีจะเป็นผู้ที่ดิสทริบิวสินค้าโอทอปนี้ให้กับเครือข่ายเป็นช่องการจำหน่ายด้วย

อย่างไรก็ตามเพื่อให้มีทางเลือกจำนวนมากสำหรับผู้ที่สนใจ ขณะนี้ทางเออาร์ทีจึงอยู่ระหว่างการพัฒนาอีกหลายรูปแบบ เพื่อให้มีความหลากหลาย และทำให้เครือข่ายของสมาชิกเออาร์ทีมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น