เครือเจริญโภคภัณฑ์ประกาศนโยบายให้บริษัทในเครือฯลดการใช้พลังงาน ลง 20% เร่งหากลยุทธ์รับยุคน้ำมันแพง เซเว่น อีเลฟเว่น เป็นหัวหอกนำร่องก่อนใคร ธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัวซีพี เชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกยังคงเติบโต เพราะเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในด้านการผลิต
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ประกาศนโยบายให้บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ทั้งหมดร่วมรณรงค์ประหยัดพลังงาน เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาล โดยมีการประชุมผู้บริหารระดับสูงจากทุกกลุ่มธุรกิจภายในเครือเจริญโภคภัณฑ์ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งมีการตั้งเป้าหมายลดการใช้พลังงานลง 20% โดยจะต้องไม่กระทบถึงยอดขายและการดำเนินธุรกิจ พร้อมกับแต่งตั้งให้ ดร.อาชว์ เตาลานนท์ รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นผู้ประสานงานในการรณรงค์ประหยัดพลังงานของเครือเจริญโภคภัณฑ์
ในการนี้ บริษัทต่าง ๆ ในเครือเจริญโภคภัณฑ์จะต้องจัดทำแผนรณรงค์ประหยัดพลังงานขึ้นมา โดยมีเป้าหมายลดการใช้พลังงานลง 20% ตามนโยบายของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ซึ่งขณะนี้ปรากฏว่าหน่วยงานแรกภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ดำเนินการก่อนเป็นรายแรกคือ บมจ.เซเว่น อีเลฟเว่น
โดยนายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง "เซเว่นอีเลฟเว่น" ได้เปิดเผยว่าในส่วนของเซเว่น อีเลฟเว่นนั้นจะดำเนินการรณรงค์ปรับปรุงประสิทธิภาพระบบการใช้พลังงานไฟฟ้าของร้านฯทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อการประหยัดพลังงาน แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการให้บริการสูงสุด ทั้งนี้โดยมีมาตรการต่าง ๆ เช่น การปรับปรุงระบบเครื่องปรับอากาศภายในร้าน, การลดหลอดไฟและขนาดไฟป้ายยาว, การลดจำนวนหลอดไฟภายในร้าน,การปรับแรงดันหม้อแปลง รวมทั้งการบำรุงรักษาอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในร้านอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น ซึ่งทุกมาตรการจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าประหยัดพลังงานไฟฟ้าที่ร้อยละ 21.67 ภายในระยะเวลา 6 เดือน และเพิ่มเป็นร้อยละ 27.07 ภายใน 1 ปี คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 664 ล้านบาท
สำหรับแผนการรณรงค์การประหยัดพลังงานของเครือเจริญโภคภัณฑ์นั้น จะวางแผนเป็น 3 ระยะ คือ ระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว ทั้งนี้เพราะเชื่อว่าราคาน้ำมันจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อไปตามภาวะตลาด
ในการดำเนินการประหยัดพลังงานครั้งนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์จะทำงานไปพร้อมกันกับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ภายใต้การนำของ นายสิริพร ไศละสูต อธิบดีฯ ซึ่งกล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาสามารถลดการใช้พลังงานได้ 5 - 30% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมาตรการรณรงค์และความสามารถของแต่ละองค์กร ดังนั้นจึงมั่นใจว่าเป้าหมายที่เครือฯกำหนดไว้ 20% น่าจะเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และยินดีที่เครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นองค์กรเอกชนกลุ่มใหญ่รายแรกที่ขอให้กรมฯเข้ามาร่วมทำงานในครั้งนี้ด้วย จึงถือเป็นที่นิมิตหมายที่ดี อย่างไรก็ตามในการดำเนินงานประหยัดพลังงานของเครือฯนั้นทุกฝ่ายจะต้องให้ความร่วมมือ ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูง กลาง ล่าง จนถึงผู้ปฏิบัติการ
ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ แสดงความคิดเห็นว่าแม้ราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งมีผลทำให้ต้นทุนในการผลิตและขนส่งสูงขึ้น แต่ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจของไทยและเศรษฐกิจโลกจะยังคงเติบโตต่อไป ทั้งนี้เพราะผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวหามาตรการต่าง ๆ มาใช้เพื่อลดต้นทุนค่าพลังงาน ประกอบกับในปัจจุบันโลกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ซึ่งเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการผลิตได้ เช่น การใช้เครื่องจักรทันสมัยที่ใช้พลังงานเท่าเดิม หรือ อาจเพิ่มขึ้น 10 - 20% แต่เพิ่มการผลิตได้เป็นเท่าตัว
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ประกาศนโยบายให้บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ทั้งหมดร่วมรณรงค์ประหยัดพลังงาน เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาล โดยมีการประชุมผู้บริหารระดับสูงจากทุกกลุ่มธุรกิจภายในเครือเจริญโภคภัณฑ์ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งมีการตั้งเป้าหมายลดการใช้พลังงานลง 20% โดยจะต้องไม่กระทบถึงยอดขายและการดำเนินธุรกิจ พร้อมกับแต่งตั้งให้ ดร.อาชว์ เตาลานนท์ รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นผู้ประสานงานในการรณรงค์ประหยัดพลังงานของเครือเจริญโภคภัณฑ์
ในการนี้ บริษัทต่าง ๆ ในเครือเจริญโภคภัณฑ์จะต้องจัดทำแผนรณรงค์ประหยัดพลังงานขึ้นมา โดยมีเป้าหมายลดการใช้พลังงานลง 20% ตามนโยบายของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ซึ่งขณะนี้ปรากฏว่าหน่วยงานแรกภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ดำเนินการก่อนเป็นรายแรกคือ บมจ.เซเว่น อีเลฟเว่น
โดยนายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง "เซเว่นอีเลฟเว่น" ได้เปิดเผยว่าในส่วนของเซเว่น อีเลฟเว่นนั้นจะดำเนินการรณรงค์ปรับปรุงประสิทธิภาพระบบการใช้พลังงานไฟฟ้าของร้านฯทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อการประหยัดพลังงาน แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการให้บริการสูงสุด ทั้งนี้โดยมีมาตรการต่าง ๆ เช่น การปรับปรุงระบบเครื่องปรับอากาศภายในร้าน, การลดหลอดไฟและขนาดไฟป้ายยาว, การลดจำนวนหลอดไฟภายในร้าน,การปรับแรงดันหม้อแปลง รวมทั้งการบำรุงรักษาอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในร้านอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น ซึ่งทุกมาตรการจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าประหยัดพลังงานไฟฟ้าที่ร้อยละ 21.67 ภายในระยะเวลา 6 เดือน และเพิ่มเป็นร้อยละ 27.07 ภายใน 1 ปี คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 664 ล้านบาท
สำหรับแผนการรณรงค์การประหยัดพลังงานของเครือเจริญโภคภัณฑ์นั้น จะวางแผนเป็น 3 ระยะ คือ ระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว ทั้งนี้เพราะเชื่อว่าราคาน้ำมันจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อไปตามภาวะตลาด
ในการดำเนินการประหยัดพลังงานครั้งนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์จะทำงานไปพร้อมกันกับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ภายใต้การนำของ นายสิริพร ไศละสูต อธิบดีฯ ซึ่งกล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาสามารถลดการใช้พลังงานได้ 5 - 30% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมาตรการรณรงค์และความสามารถของแต่ละองค์กร ดังนั้นจึงมั่นใจว่าเป้าหมายที่เครือฯกำหนดไว้ 20% น่าจะเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และยินดีที่เครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นองค์กรเอกชนกลุ่มใหญ่รายแรกที่ขอให้กรมฯเข้ามาร่วมทำงานในครั้งนี้ด้วย จึงถือเป็นที่นิมิตหมายที่ดี อย่างไรก็ตามในการดำเนินงานประหยัดพลังงานของเครือฯนั้นทุกฝ่ายจะต้องให้ความร่วมมือ ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูง กลาง ล่าง จนถึงผู้ปฏิบัติการ
ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ แสดงความคิดเห็นว่าแม้ราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งมีผลทำให้ต้นทุนในการผลิตและขนส่งสูงขึ้น แต่ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจของไทยและเศรษฐกิจโลกจะยังคงเติบโตต่อไป ทั้งนี้เพราะผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวหามาตรการต่าง ๆ มาใช้เพื่อลดต้นทุนค่าพลังงาน ประกอบกับในปัจจุบันโลกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ซึ่งเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการผลิตได้ เช่น การใช้เครื่องจักรทันสมัยที่ใช้พลังงานเท่าเดิม หรือ อาจเพิ่มขึ้น 10 - 20% แต่เพิ่มการผลิตได้เป็นเท่าตัว