เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – สื่อต่างประเทศรายงานนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร วันนี้(1 ก.ค)โดนศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาให้หยุดการปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราวเซ่นเหตุคลิปเสียงโทรศัพท์ฉาวกับอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน เซน สั่นสะเทือนอำนาจตระกูลชินวัตรที่มีอิทธิพลเหนือการเมืองไทยนานตลอด 20 ปี ด้านผู้นำกัมพูชา ลูกชายฮุน เซน ล่าสุดส่งเสียงเย้ย จะรอคุยผู้นำไทยที่มีอำนาจที่แท้จริงสามารถเปิดพรมแดนได้
บีบีซีของอังกฤษรายงานวันนี้(1 ก.ค) นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร วันอังคาร(1) ถูกศาลรัฐธรรมนูญไทยสั่งให้ยุติการปฎิบัติหน้าที่จากเหตุคลิปเสียงที่รั่วออกมาสู่สาธารณะในการสนทนาส่วนตัวทางโทรศัพท์ร่วมกับอดีตประธานาธิบดีกัมพูชา ฮุน เซน ระหว่างไทยและกัมพูชากำลังเปิดปัญหาพิพาททางชายแดน
ที่ผ่านมาแพทองธารถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง
สื่ออังกฤษชี้ว่า คลิปเสียงที่เผยแพร่พบว่าผู้นำหญิงของไทยเรียกอดีตผู้นำกัมพูชาว่า “อังเคิล” หรือ “คุณลุง” พร้อมกล่าววิพากษ์วิจารณ์ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคของตัวเองโดยอ้างว่า ผู้บัญชาการทหารคนดังกล่าวเป็นคนของฝ่ายตรงข้าม
ส่งผลทำให้ประชาชนในไทยต่างไม่พอใจอย่างหนักพร้อมกับยื่นเรื่องเพื่อถอดถอนออกจากตำแหน่งที่ศาลกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
และสามารถทำให้แพทองธาร บุตรสาวคนเล็กของอดีตนายกรัฐมนตรีไทย ทักษิณ ชินวิตร ซึ่งเป็นทายาททางการเมืองคนที่ 3 ของตระกูลชินวัตรที่มีอิทธิพลเหนือการเมืองไทยมายาวนานตลอด 20 ปีอาจต้องเสียอำนาจก่อนหมดสมัยการดำรงตำแหน่ง
ซึ่งในเวลานี้รัฐบาลพรรคร่วมของนายกฯอิงค์นั้นอยู่ในขั้นเสียงปริ่มน้ำหลังจากพรรคร่วมสำคัญได้ลาออกไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 – 2 สั่งให้แพทองธารหยุดปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราวระหว่างที่ศาลกำลังพิจารณาคดีการถอดถอนและแพทองธารมีเวลา 15 วันในการขึ้นให้การค้าน
ทั้งนี้ในวันอังคาร(1) นายกรัฐมนตรีไทยออกมาขออภัยพร้อมกล่าวอ้างว่า จุดประสงค์นั้นมากกว่า 100% เพื่อประเทศชาติ”
พร้อมกันนี้ยังกล่าวปกป้องตัวเองต่อด้วยประโยคซ้ำๆที่ว่า “ดิฉันไม่มีความตั้งใจจะทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ดิฉันเพียงแต่คิดไปว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เลี่ยงความโกลาหล หลีกเลี่ยงการสู้รบและการป้องกันไม่ให้เกิดการเสียชีวิต”
แพทองธารที่โดนสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราวกล่าวย้ำว่า “หากว่าพวกคุณได้ฟังอย่างตั้งใจ คุณจะเข้าใจว่าดิฉันไม่มีเจตนาร้าย นี่เป็นสิ่งที่ดิฉันให้ความสำคัญและใช้เวลาในการอธิบายอย่างละเอียด”
บีบีซีรายงานว่า หากว่านายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ถูกพิพากษาให้ออกจากตำแหน่งจะกลายเป็นฝันร้ายของพรรคเพื่อไทยไปในทันทีหลังจากก่อนหน้าอดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ที่เพิ่งโดนสั่งให้ออกจากตำแหน่งไปเมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว
แพทองธารวัย 38 ปีกลายเป็นนายกรัฐมนตรีไทยที่มีอายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมาและเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ที่ดำรงตำแหน่งตามหลังน้า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่โดนรัฐประหารและในเวลานี้กำลังอยู่ระหว่างลี้ภัยทางการเมืองในต่างแดน
ที่ผ่านมารัฐบาลนายกฯอิงค์พยายามอย่างหนักที่จะกู้เศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอให้ฟื้นเกิดขึ้นท่ามกลางความนิยมของเธอตกลงไปที่ 9.2% เมื่อสุดสัปดาห์ล่าสุด ต่ำจาก 30.9% ในมีนาคม
ข่าวนายกฯไทยโดนศาลรัฐธรรมนูญไทยสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราวกลายเป็นข่าวครึกโครมในกัมพชา
ขแมร์ไทม์สของกัมพูชารายงานล่าสุดว่า ผู้นำกัมพูชา ฮุน มาเน็ต กล่าวเย้ยว่า เขากำลังเฝ้ารอ ‘ผู้นำไทย’ ที่มีอำนาจที่แท้จริง คนที่มีอำนาจทางกฎหมายที่สามารถเปิดหรือปิดจุดข้ามแดนได้เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางชายแดนของ 2 ประเทศ
เป็นการกล่าวผ่านคลิปเสียงยังแสดงความสงสัยต่อความน่าเชื่อถือจากฝ่ายไทย แสดงให้เห็นความกังวลจากฝั่งเขมรต่อความพยายามในการบีบให้ไทยยอมเปิดจุดผ่านแดนตามความปราถนาของพนมเปญ